ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวถึงทิศทางและเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2560 – 2561 ว่าเรายังคง มุ่งมั่น ในการพัฒนาคุณภาพที่เป็นเลิศและประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดยมีแผน พัฒนา ทั้งสิ้น 4 ด้าน คือ
1. การพัฒนาคุณภาพด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาล ต่ออายุรกรรมรับรองมาตรฐานสากล JCI (The Joint Commission International) และมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เจาะลึกเฉพาะทางด้วยมาตรฐาน CCPC TKR (Clinical Care Program Certification-Total Knee Replacement Program-CCPC TKR)
2. การพัฒนาบุคลากร จัดการฝึกอบรมหลักสูตร Homey Service Experience Standard และการเสริมสร้างปลูกฝังแก่นความสามารถหลักขององค์กร (Core Competency) " We R SiPH "
3. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง และทันเวลา
"ปี 2560 เราตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จำนวนผู้ป่วยนอก 511,700 คน, จำนวนผู้ป่วยใน 16,804 คน และขยายบริการเพิ่มศูนย์โรคภูมิแพ้ คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ นอกจากนี้คาดว่าจะเปิดบริการศูนย์ทางเดินปัสสาวะ และจะเปิดจำนวนเตียงครบ 357 เตียง ในปี 2561" ศ.คลินิก น.พ.ประดิษฐ์ กล่าวเสริม
ในปี 2559 SiPH ได้ปรับปรุงและปรับกระบวนการปฏิบัติงานควบคู่กับการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ เปิดคลินิกฟื้นฟูหัวใจ และเพิ่มนวัตกรรมการรักษาธาราบำบัด ในศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู การออกกำลังกายในน้ำ สำหรับผู้มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการรับรู้ การทรงตัว ผู้ที่เคยผ่าตัด เนื่องจากกระดูกหัก ผู้ป่วยโรคข้อต่าง ๆ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน และบุคคลทั่วไปผู้ที่มีอาการเครียด และเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน?
ปัจจุบัน SiPH เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 20 ศูนย์ ครอบคลุมการรักษาโรคยาก และโรคทั่วไป โดยมีสัดส่วนผู้เข้ารับการรักษาในปี 2559 แต่ละศูนย์มากที่สุด 5 อันดับดังนี้ 1.ศูนย์อายุรกรรม
2.ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ 3.ศูนย์เด็ก 4.ศูนย์ศัลยกรรม 5.ศูนย์หัวใจด้านกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ปีนี้ SiPH มีแคมเปญ "ออมเพื่อให้" รณรงค์สร้าง ให้สังคมตระหนักถึงการเป็นผู้ให้ด้วยการออม ด้วยการบริจาคสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา อาคารศูนย์การแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลหลังสุดท้ายที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วยลดความแออัด และเป็นการขยายการบริการทางการแพทย์ให้เพียงพอที่จะรองรับประชาชนผู้มารับบริการ
"ตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลเปิดให้บริการ ถึง ปี 2559 ได้ส่งมอบเงินกลับคืน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 625 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสของโรงพยาบาลศิริราช และพัฒนายกระดับการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในเอเชียอาคเนย์ คาดการณ์ในปี 2560 จะมอบเงินคืนกลับเพิ่มอีก 250 ล้านบาท"ศ.คลินิก น.พ.ประดิษฐ์ สรุป