นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (26 เม.ย.60) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 50 ขึ้น เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ในปีนี้ยังได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง ซึ่งนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 19 โดยมี นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการเลขาธิการ พร้อมทั้งคณะกรรมการชุดใหม่รวม 67 คน ซึ่งกรรมการชุดใหม่ดังกล่าวจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่เข้ามาเป็นกรรมการชุดใหม่ ประกอบด้วยผู้แทนจากหอการค้าไทย ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า และผู้แทนรัฐวิสาหกิจและสหกรณ์นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (คนใหม่) กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนสมาชิกในเครือข่ายของสภาหอการค้าฯ ทั้งหมด มีประมาณ 100,000 ราย ดังนั้น การทำงานต่อจากนี้ จะมุ่งทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและสมาชิก ทั้งนี้ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ คือ "เป็นสถาบันหลักทางการค้าและบริการของประเทศ ที่ใช้ข้อมูล ความรู้ เครือข่าย และความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เติบโตได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน" และได้กำหนดพันธกิจไว้ 5 ประการ สำหรับขับเคลื่อนองค์กร เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ได้แก่
? เสริมความสามารถในการแข่งขันและโอกาสทางการค้าและบริการให้กับผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน ด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ
? สร้างความเชื่อมโยงและร่วมมือ ให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก
? ส่งเสริมการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ และธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ ลดความเหลื่อมล้ำด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
? ต่อยอดความรู้และประสบการณ์ สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ
? พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรทั้งเครือข่าย ให้มีประสิทธิภาพและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม
แนวนโยบายของคณะกรรมการชุดใหม่นี้ จะยังคงสานต่องานเดิมของคณะกรรมการชุดที่แล้ว เพื่อการดำเนินงานที่มีพลังต่อเนื่อง และจะมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ตามแนวคิด Trade & Services 4.0 ด้วยการใช้นวัตกรรม (Innovation) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริง (Execution) ด้วยการพัฒนาและยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้แก่สมาชิก โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มการค้าและการลงทุน กลุ่มเกษตรและอาหาร และกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ
"จุดแข็งที่สำคัญขององค์กร คือ การเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายรอบด้าน ทั้งหอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า และหอการค้าต่างประเทศ รวมทั้งสถาบันการศึกษา และสถาบันทางด้านธุรกิจต่างๆ ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้จะเน้นการเชื่อมโยงเครือข่ายเหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่งจะสามารถหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายกลินท์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยชุดนี้ จะมีคณะกรรมการฯ ท่านใหม่ จำนวน 25 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 37 โดยจะมีการผสมผสานกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนการทำงานของสภาหอการค้าฯ ให้ฉับไวมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิก และสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่อไป