ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นประธานเปิดตัวแอปพลิเคชั่นเอวาและอธิบายถึงคุณสมบัติพิเศษของเอวาพร้อมสาธิต โดยมี คุณมิรันดา ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานบริหารการเงินและผู้ก่อตั้ง ร่วมพูดถึงการขยายตลาดของแอปพลิเคชัน AVA ในอนาคต ณ ตลาดหลักทรัพย์ ถนนรัชดาภิเษก
คุณนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวถึงจุดประสงค์ในก่อตั้งและความพิเศษแอปพลิเคชันเอวาว่าจะเป็นเพื่อนคู่คิดของนักทุนได้เป็นอย่างดี
"แอปพลิเคชันเอวาถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อให้นักลงทุนได้ทำงานง่ายขึ้นแอปพลิเคชันนี้สะดวกสบายเพียงแค่ปลายนิ้ว เหมาะสำหรับนักลงทุนใหม่และเก่าที่พร้อมจะเติบโตภายในอนาคต ด้วย 4 เมนูที่เปี่ยมประสิทธิภาพ อย่าง Personalized AI Advisor วิเคราะห์การลงทุนอย่างฉับไวด้วยการคัดสรรเฉพาะบุคคลและแจ้งเตือนอัจฉริยะ, Real-Time Complete Stock Analysis ครอบคลุมทุกการวิเคราะห์การลงทุนด้วยข้อมูลย้อนหลังสูงสุด 12 ปี, Screen & Back Test / Forward Test คัดกรองหุ้นพร้อมวัดผลการลงทุนย้อนหลังและพิสูจน์ผลการลงทุนในอนาคต, AVA Trade ซื้อขายหุ้นหลักทรัพย์ผ่านทางแอปพลิเคชันเอวา พร้อมเชื่อมต่อกับพอร์ตฟอลิโอของนักลงทุนอัตโนมัติ และการเปิดตัวแอปพลิเคชันในครั้งนี้เป็นการประกาศความร่วมมือระหว่าง AVA (เอวา) กับ Settrade (เซ็ตเทรด) ในการซื้อขายโดยตรง AVA Tradeอีกด้วย"
คุณมิรันดา ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานบริหารการเงินและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวถึงความแตกต่างของแอปพลิเคชันในตลาดหุ้นปัจจุบันและการวางแผนการในอนาคตของเอวาว่า
"ในตลาดมีผู้ให้บริการข้อมูลการลงทุนมากมายทั้งในส่วนของสตาร์ทอัพและการพัฒนาของโบรกเกอร์เอง แต่เป้าหมายของ เอวา คือการพัฒนาเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการลงทุนมากที่สุด เพื่อจำกัดความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทน
ต่อเนื่องได้ในทุกสภาวะตลาด โดยมีทั้งข้อมูลการ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) การไหลเวียนของเงินทุน (FundFlow)ตลอดจนถึงข่าวสารที่เกี่ยวข้องและบทวิเคระห์จากโบรกเกอร์ พาร์ทเนอร์ของเราและยังภูมิใจที่ AVA Engine (เอวา เอนจิน) ของเราขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (เอไอ) โดยล่าสุดเราได้พัฒนา Image Processing Trendline Detection คือการนำเทคโนโลยีประมวลผลภาพเข้าตรวจจับสัญญาณซื้อขายในแท่งเทียน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ล่าสุด"
"ซึ่งเรามั่นใจว่า เอวา ที่เราพัฒนามานี้จะเติบโตในวงการตลาดหุ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเติบโตเพิ่มขึ้นจะสูงถึง 30% และอัตราการคงอยู่ (Retention rate) สูงขึ้น 50% จากปัจจุบันที่ยอดผู้ใช้งาน 120,000 ยูสเซอร์ต่อเดือ หรือเท่ากับ 30% ของวอลุ่มซื้อขายในตลาด"
"ในแง่ของการขยายตลาดภายในปี 2560 เรามีการวางแผนที่จะให้บริการข้อมูลหุ้นต่างประเทศ เริ่มจาก สิงคโปร์ อเมริกา และจะขยายไปยังประเทศเวียดนาม ฮ่องกง จีน ตามลำดับ ส่วนในแง่ของ AVA Trade (เอวา เทรด) จะเริ่มใช้งาน ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเอาได้ภายในช่วงควอเตอร์ 3 ปี 2060 และข่าวดีสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนด้วยตนเอง AVA FUND (เอวา ฟันด์) กองทุนส่วนบุคคลด้วยปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ จะเปิดให้บริการในปีนี้เช่นกัน"
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาว์นโหลดและใช้งานแอพพลิเคชั่นเอวา (AVA) ได้ทั้งโทรศัพท์มือถือในระบบ iOS และ Android ในเดือน พฤษภาคม 2560 นี้ หรือสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ [email protected] และwww.ava.fund