นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่มีความเดือดร้อนเรื่องหนี้สิน ส่งผลให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ได้มีการชุมนุมเรียกร้องให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ และรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อน มีการหารือร่วมระหว่างตัวแทนกลุ่มเกษตรกร และกองทัพภาคที่ 1 ได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้านจัดการหนี้ให้เกษตรกรสมาชิก เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลหนี้ สถานะหนี้ของเกษตรกรในแต่ละจังหวัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัดต่าง ๆ
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการเป็นหนี้โดยแยกประเภทเป็น 2 ประเภท คือ หนี้เร่งด่วน ที่มีสถานะหนี้ตั้งแต่ดำเนินคดี จนถึงขายทอดตลาด และหนี้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ กฟก. ทั้งหมด และล่าสุดได้จัดทำข้อมูลหนี้เร่งด่วนเบื้องต้นในขณะนี้ มีจำนวน 3,737 ราย 4,403 บัญชี มูลหนี้ 3,540,771,638.34 บาท ซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ได้นั้นสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ จะนำไปจัดทำแผนการจัดการหนี้เร่งด่วน เสนอคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรพิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อของบประมาณในการชำระหนี้แทนเกษตรกรในกรณีหนี้เร่งด่วนต่อไป
ส่วนในกรณีหนี้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ปี 2546 เป็นต้นมา อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา และกำลังคนในการดำเนินการ จึงอยากขอความร่วมมือจากเกษตรกรสมาชิก หากต้องการให้ กฟก. ดำเนินการช่วยเหลือในการชำระหนี้แทน โปรดติดต่อสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัด เพื่อปรับปรุงสถานะหนี้ และแจ้งความจำนงว่าต้องการให้ กฟก. ช่วยเหลือ จะทำให้ข้อมูลหนี้มีความเป็นปัจจุบัน และสามารถเข้าสู่กระบวนการจัดการหนี้ให้เกษตรกรได้ทันต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรสมาชิก" นายสมยศกล่าว