ชุมชน ต.ท่าเสา เป็นชุมชนเล็กๆ ใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นชุมชนเกษตรกรที่คนในชุมชนส่วนหนึ่งต้องเผชิญกับปัญหาภาวะหนี้สินนอกระบบ จนนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขปัญหาชุมชนอย่างยั่งยืนร่วมกัน โดยการสร้างสมาชิกพอเพียง เปลี่ยนหนี้ชุมชน สู่หุ้นวิสาหกิจ มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
ก่อกำเนิดจากการเป็นร้านค้าเล็กๆ ในชุมชน ด้วยแนวคิดส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมี เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในชุมชน ปลูกฝังแนวคิดความพอเพียง ลด ละ เลิก อบายมุข และส่งเสริมการออมทำให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ทั้งจากการทำการเกษตรและการผลิตสินค้ามาจำหน่ายที่ร้านค้าชุมชน เพิ่มรายได้ ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน ซึ่งได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ศูนย์สาธิตการเกษตรร้านค้าชุมชน ต.ท่าเสาอ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ขึ้นเมื่อปลายปี 2544 ที่มีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างคุณภาพชีวิตชุมชนและสนับสนุนให้สมาชิกหลุดพ้นจากภาวะหนี้สินนอกระบบ
วิสาหกิจชุมชนฯ ต.ท่าเสา มีสมาชิกเริ่มแรก 65 คน ที่ร่วมกันพัฒนาร้านค้าชุมชนให้ขยายกิจการได้อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี จึงได้ขยายสู่การจัดตั้งฟาร์มเอาท์เล็ท (Farm Outlet) หรือศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2557 วางจำหน่ายสินค้ามากกว่า 3,000 รายการ สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรแปรรูปและผลิตภัณฑ์จากชุมชน อาทิ ผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ ผลไม้ตามฤดูกาล น้ำพริก น้ำสมุนไพร และอาหารอื่นๆ เป็นต้น นับเป็นความสำเร็จที่ยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เพื่อสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า ขยายตลาดให้กับเกษตรกรและสมาชิกในชุมชน รวมถึงนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และเมื่อ 5 ก.ย. 2559 เริ่มเปิดกิจการร้านค้าส่ง เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าอุปโภค บริโภค ในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี อ.เมือง (2 ตำบล) และเป็นที่ปรึกษาในการจัดตั้งร้านค้าชุมชนใน 20 ตำบล ในเขตพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
ความสำเร็จที่น่าชื่นชมตามเป้าหมายแรกเริ่มได้เกิดผลลัพธ์ที่สร้างรอยยิ้มให้แก่ชุมชน จากหนี้สินนอกระบบ ได้กลายเป็นวิสาหกิจชุมชนฯ ที่เข้มแข็ง ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 600 คน เป็นหุ้นทั้งหมด 49,875 หุ้น รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ เกิดจากการวางรูปแบบการบริหารอย่างเป็นระบบ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ได้รับการยอมรับในวงกว้าง กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานด้านการจัดการร้านค้าชุมชน และการบริหารจัดการเงินทุนในชุมชน ซึ่งมีหน่วยงานราชการ องค์กรท้องถิ่น เข้ามาศึกษาดูงานปีละกว่า 5,000 คน ที่จะได้ไปขยายผลให้กับชุมชนอื่นๆ ต่อไป
นายพิพัฒน์ แก้วจิตคงทอง รองประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า "ผมคิดว่าถ้าเราทำได้ ตามยุทธศาสตร์ของพวกเราแบบนี้ มันสามารถขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศได้ ปัญหาของชุมชนก็จะบรรเทาลงหรือหมดไปได้ในอนาคต"
ด้วยความพยายามจนเป็นแบบอย่างในการสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้วิสาหกิจชุมชน ศูนย์สาธิตการเกษตรร้านค้าชุมชน ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี คว้ารางวัลมีชัย วีระไวทยะ ยกย่องให้เป็นผู้ทำความดีเพื่อสังคมประจำปี 2559 สาขาการพัฒนาสังคมชนบท ซึ่งคัดเลือกโดยสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ในโครงการ "10 ปี SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม" โดยมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย