รุกตลาดซีแอลเอ็มวีเต็มรูปแบบ ส่งโปรเจคยักษ์ โรดโชว์สัมมนาธุรกิจยุคใหม่ ทริปธุรกิจ และบิซซิเนส แมชชิ่ง รวมทัพผู้เชี่ยวชาญตัวจริงทั้งใน และต่างประเทศ ติดสปีดเพิ่มการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยประสบความสำเร็จ
อายุน้อยร้อยล้าน อคาเดมี ปรับยุทธศาสตร์เอสเอ็มอีไทย เดินหน้ารุกตลาดซีแอลเอ็มวี (CLMV) 4 หัวเมืองใหญ่ เต็มรูปแบบ ส่งโปรเจคยักษ์ตลอดปี 2017 1. โรดโชว์สัมมนาธุรกิจยุคใหม่ 'แกะรอยร้อยล้าน'ทั่วประเทศไทย 2. ทริปธุรกิจ 4 ประเทศ CLMV และ 3. บิซซิเนส แมชชิ่ง จับคู่ธุรกิจสูตรสำเร็จกับนักธุรกิจใน กัมพูชา เมียนมา ลาว และเวียดนาม รวบรวมผู้เชี่ยวชาญหลากอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แชร์ความรู้ ประสบการณ์ และโนว์ ฮาวน์ เดินหน้าพลิกกลยุทธ์ วิธีคิด วางแผน และการบริหารงาน เพิ่มโอกาส และติดสปีดการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยประสบความสำเร็จในธุรกิจ
จากความร่วมมือ และการสร้างสรรค์ อายุน้อยร้อยล้าน อคาเดมี โดยนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา และนายอรรฆรัตน์ นิติพน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น จำกัด ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีความตั้งใจ และมุ่งมั่นให้อายุน้อยร้อยล้าน อคาเดมี เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และประสบการณ์การทำธุรกิจ ผ่านนักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย สร้างสรรค์รูปแบบโปรเจคให้สอดคล้องกับสภาวะของธุรกิจเอสเอ็มอี (SMEs) ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการไทยประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และการคาดการณ์ขยายตัวจีดีพีของ SMEs ของประเทศไทย ในปี 2560 จะขยายตัวถึงร้อยละ 5.0 และกลุ่ม CLMV จะขยายตัวประมาณร้อยละ 6.7-7.6 รวมถึงมีหน่วยงานที่ส่งเสริม และสนับสนุนธุรกิจกิจเอสเอ็มอีทั้งภาครัฐ และเอกชนที่พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางธุรกิจ ประกอบกับไลฟสไตล์ของผู้บริโภคในกลุ่ม CLMV เชื่อ ไว้วางใจ และเลือกใช้แบรนด์ที่มาจากประเทศไทย ทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ นิยมเสพสื่อไทย อาทิ ละครไทย ดาราไทย และรายการโทรทัศน์ เป็นต้น มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมองประเทศไทยในฐานะผู้นำเทรนด์ในด้านต่างๆ ทั้งด้านแฟชั่น และไลฟสไตล์ จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่จะเริ่มต้นหรือต่อยอดธุรกิจออกสู่ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น ล่าสุดปรับกลยุทธ์อีกครั้ง รวบรวมผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจากหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เดินหน้าพลิกกลยุทธ์ สร้างโนว์ ฮาวน์ ตั้งแต่ระบบการคิด วางแผน และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ รุกตลาดซีแอลเอ็มวี ดินแดนแห่งโอกาสกับ 4 หัวเมืองใหญ่ พนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทน์ และโฮจิมินห์ ด้วยการส่งโปรเจคใหญ่ 2 งานหลัก ครอบคลุมตลาดทั้งในประเทศ และกลุ่ม CLMV คือ
1.) โรดโชว์สัมมนาธุรกิจยุคใหม่ทั่วประเทศไทย กับ งานสัมมนา 'แกะรอยร้อยล้าน The Transformers' Young Self Millionaire สัญจร ผ่านนักธุรกิจ 100 ล้านตัวจริง เปลี่ยนมุมคิด พลิกธุรกิจสู่ร้อยล้าน ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ผ่าน 3 ขั้นตอนอาทิ ทรานซ์ฟอร์ม ดรีม ทู เรียลลิตี้ (Transform Dream to Reality) ปรับเปลี่ยนกระบวนการความคิด เพื่อรองรับกับความท้าทายรอบด้าน ทรานซ์ฟอร์ม บิซซิเนส ทรู ไฟแนนเชียล ทูลซ์ (Transform Business Through Financial Tools) สร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงิน พร้อมการบริหารวางแผนการเงิน เพื่อการเติบโตของธุรกิจ และทรานซ์ฟอร์ม โลคอล ทู รีเจียน (Transform Local to Region) ต่อยอด และขยายตลาดสู่วงกว้างในระดับภูมิภาค เพื่อการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะโรดโชว์ครอบคลุม 5 ภูมิภาค อาทิ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และอีก 8 จังหวัดในประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 3 เดือนเต็ม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคมนี้ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ได้อย่างทั่วถึง
2.) ทริปธุรกิจ 4 ประเทศ CLMV กับ 'เอ็กซ์คลูซีฟ บิซซิเนส ทริป อิน ซีแอลเอ็มวี' ทริปธุรกิจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจ การค้า และโอกาสทางธุรกิจ กับท่านทูต และตัวแทนนักธุรกิจไทย สำรวจตลาดโลคอล และย่านธุรกิจชื่อดังในกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรม ธุรกิจการสื่อสาร และเทคโนโลยี และธุรกิจค้าปลีก โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และครั้งแรกกับการทำบิซซิเนส แมชชิ่ง (Business Matching) กับนักธุรกิจในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม แบบเป็นกันเอง เพื่อสร้างเครือข่าย และโอกาส ต่อยอดธุรกิจ ในเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมนี้
นายอรรฆรัตน์ นิติพน กล่าวเพิ่มเติม "จากการที่มีฐานข้อมูลลูกค้าเอสเอ็มอี ได้เห็นถึงศักยภาพ และเส้นทางการเติบโตความสำเร็จของผู้ประกอบการไทยในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดโอกาสอยู่ภายเฉพาะในประเทศอีกต่อไป แต่สามารถขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศได้ เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภค ผนวกกับเทคโนโลยีที่เข้ามีบทบาทสำคัญ เชื่อมโยงทุกอย่างได้อย่างไร้พรมแดน จึงเป็นโอกาสดีที่จะสานต่อเจตนารมณ์ เพื่อผลักดัน และพัฒนาโปรเจคคุณภาพตลอดปี 2017 โดยเฉพาะความพิเศษในครั้งนี้ ที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับ คือ การเน้นในเรื่องของการทำบิซซิเนส แมชชิ่ง ซึ่งมัชรูมมีความแข็งแกร่งกับเครือข่ายกลุ่มนักธุรกิจในประเทศ CLMV ที่จะเป็นประตูเปิดทางให้ธุรกิจอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญได้ และเติบโตต่อได้อย่างรวดเร็ว"
"หลายธุรกิจต้องประสบกับปัญหาการทำธุรกิจ ทำอย่างไรก็ไม่เกิด ไม่พัฒนา และต่อยอดต่อไม่ได้ เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจการบริหารจัดการที่ดี และรูปแบบของธุรกิจที่เป็นอุปสรรค์ ยากต่อการดำเนินธุรกิจให้มั่นคง ดังนั้นการจัดระบบทางความคิด ประสบการณ์ และความรู้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการแนะแนวไอเดียใหม่ๆ และวางแผนอย่างมีกลยุทธ์ จะช่วยสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นกลุ่มคอมมูนิตี้ และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแรง เชื่อมโยงธุรกิจสู่ธุรกิจ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มั่นคงสู่ประเทศเพื่อนบ้านร่วมกันได้" นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย