ไพรซ์ซ่าเผยพฤติกรรมผู้บริโภคไตรมาสแรกปี 60 ชี้กลุ่มมิลเลนเนียลคือกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนตลาดออนไลน์ แนะแบรนด์ปรับกลยุทธ์ให้ตรงจุดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า

จันทร์ ๐๘ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๕๓
จากกระแสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นปี 2560ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสนใจและหันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น โดยบริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา Priceza.com ได้รวบรวมข้อมูลยอดผู้เข้าใช้งานShopping Search Engine ในไทย พบว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 มีผู้สนใจเข้ามาค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาผ่าน Priceza.com เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 145 เมื่อเทียบกับปี 2559 หรือมีผู้เข้ามาใช้งานค้นหาสินค้าเพื่อเปรียบเทียบราคาถึงเดือนละกว่า 9 ล้านราย

จากยอดการค้นหากว่า 9 ล้านครั้งต่อเดือน ไพรซ์ซ่าพบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ ประเภทสินค้าที่มีการค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรก ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 ได้แก่ ของสะสมและของเก่า 16.3%เสื้อผ้าและแฟชั่น 8.1% เครื่องใช้ไฟฟ้า 6.1% โทรศัพท์ – อุปกรณ์สื่อสาร 5.9% และ อาหารและสุขภาพ 5.5% ตามลำดับ โดยร้านค้าที่มีการค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรก คือ Lazada.co.th, 11STREET.co.th, thainitashop.com, Cmart.co.thและ Central.co.th ตามลำดับ

นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Priceza.com กล่าวถึงข้อมูลการใช้งานที่ไพรซ์ซ่าพบว่า "จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการเว็บไซต์ Priceza.com กว่า 9 ล้านครั้งต่อเดือน มีการกระจายไปยัง Marketplace ทั้งกลุ่ม Cooperate seller และ SME seller ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าเขาอยากเลือกซื้อสินค้าจากใคร ทุกวันนี้รูปแบบการขายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นมีความหลากหลายมากขึ้น มีผู้เล่นหน้าใหม่จำนวนมากกระโดดเข้ามาในการแข่งขันนี้อย่างดุเดือด และส่งผลกระทบที่สำคัญต่อภาพรวมของตลาดในแง่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคดิจิทัล ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตามควรให้ความสำคัญในการอยู่ร่วมกันของสังคมอีคอมเมิร์ซ (Ecosystem) ที่ต่างต้องช่วยผลักดันซึ่งกันและกัน เพื่อมอบผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภค"

Priceza.com ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า กลุ่มนักช้อปที่ขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดคือกลุ่ม Gen Mหรือคนยุคมิลเลนเนียล (Millennials) (อายุ 18-34 ปี) ซึ่งทำการซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดถึง 61.92% รองลงมาคือ กลุ่ม Gen X (อายุ 35-54 ปี) 32.69% และ กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (อายุ 55 ปีขึ้นไป) 5.39% ตามลำดับ ดังนั้นแบรนด์ควรปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงและครองใจผู้บริโภคมากขึ้น

"เมื่อแบรนด์รู้ว่าลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล คือกลุ่มที่เป็นลูกค้าหลักของตลาดอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้มากขึ้น ควรทำการศึกษาพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ เพื่อวางแผนและปรับกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าเป็นการทำการตลาดเฉพาะบุคคล ที่นอกเหนือจากการระบุชื่อลูกค้าแล้ว ยังรวมถึงการแนะนำสินค้าหรือบริการสำหรับที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละบุคคล การมอบประสบการณ์ที่ดีและแตกต่างจากคู่แข่งหรือแบรนด์อื่นๆในท้องตลาด รวมถึงการใช้ช่องทางที่หลากหลายในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ภายใต้แนวคิดลูกค้าอยู่ที่ไหนไปที่นั่น เมื่อแบรนด์สามารถทำความเข้าใจและปรับตัวได้ตามพฤติกรรมและตามความต้องการของผู้บริโภค ก็จะมีความสามารถในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในยุคอีคอมเมิร์ซได้อย่างแน่นอน" นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผากล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น