HBC เป็นผู้นำในการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยอุบัติเหตุรายบุคคตล และดำเนินการพิจารณาสินไหมในประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2536 โดยได้ให้บริการแก่บริษัทประกันภัยและองค์กรชั้นนำของไทย 17 แห่ง และบริษัทต่างชาติ 3 แห่ง
นายโมเซส ฮี รองประธานฝ่ายอินทิเกรเต็ดโซลูชั่นส์ (Integrated Solutions) บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา กล่าวว่า การร่วมงานกันในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักคือการผลักดันการเติบโตของ HBC ในประเทศไทย และการขยายบริการรวมทั้งสร้างประโยชน์มากยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทย
"ซิลลิค ฟาร์มา จะทำงานร่วมกับ HBC เพื่อช่วยให้ HBC ขยายธุรกิจในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัทต่างๆ และผู้ให้บริการประกันภัยในประเทศไทย ปัจจุบัน HBC ดูแลลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัทประกันชั้นนำในประเทศกว่า 2.5 ล้านคน และยังมีศักยภาพอีกมากที่จะเติบโตต่อไป"
นายเพิ่มศักดิ์ เนตรนุช กรรมการผู้จัดการบริษัท HBC กล่าวว่าการที่ซิลลิค ฟาร์มาเข้ามาลงทุนในบริษัทฯจะทำให้ HBC มีโอกาสขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายและเทคโนโลยีอันทันสมัยของ MiCare (มายแคร์)
"ซิลลิค ฟาร์มามีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและกว้างขวางทั่วภูมิภาค รวมทั้งมีการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ ที่สร้างสรรค์เปี่ยมนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจและการให้บริการของ HBC และ ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เกิดการพัฒนาด้านเทคโนโลยัและโซลูชั่นที่จะนำมาซึ่งการให้บริการและประโยชน์ด้านสุขภาพแก่ลูกค้าชาวไทยที่เราดูแลอยู่" นายเพิ่มศักดิ์กล่าว
MiCare (มายแคร์) เป็นบริษัทในเครือของซิลลิค ฟาร์มา และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านการดำเนินการสินไหมในประเทศมาเลเซีย โดยให้บริการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งบริการด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยอุบัติเหตุรายบุคคล และดำเนินการพิจารณาสินไหม ให้แก่องค์กรชั้นนำและบริษัทประกันภัย ซิลลิค ฟาร์มา จะนำเทคโนโลยีรวมทั้งความเชี่ยวชาญของ MiCare (มายแคร์) มาให้บริการในประเทศไทยผ่านทาง HBC ด้วย
นายโมเซส ฮี "MiCare (มายแคร์) ให้บริการหลากหลายที่ช่วยให้ลูกค้าประกันของบริษัทประกันและองค์กรต่างๆ มีสุขภาพดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผูบริโภครายคน และช่วยลดต้นทุนด้านบริการเกี่ยวกับสุขภาพและการประกัน"
โซลูชั่นต่างๆ ที่ MiCare (มายแคร์) ให้บริการในประเทศมาเลเซียอยู่ในขณะนี้ มีหลากหลาย อาทิ แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และโปรแกรมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
"โปรแกรมเพื่อสุขภาพเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ที่ดี จากโครงการนำร่องที่เราเริ่มกับองค์กรต่างๆ ในมาเลเซีย พบว่าเราช่วยให้องค์กรเหล่านี้ลดจำนวนการเคลมประกันจากการเป็นโรคเรื้อรังในกลุ่มพนักงานขององค์กรลูกค้าได้ประมาณ 20% และทำให้ 45% ของคนที่เข้าร่วมโครงการของเรา มีสุขภาพดีขึ้น" นายโมเซส ฮี กล่าว
"จากการดำเนินโครงการเหล่านี้ พบว่าการหยุดงานของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการลดลง 14% และบริษัทเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายสวัสดิการด้านสุขภาพของพนักงานลดลง 15% เรากำลังพิจารณานำโครงการเหล่านี้มานำเสนอต่อผู้บริโภคชาวไทย ผ่านการลงทุนและความร่วมมือของเราและ HBC" นายโมเซส ฮีกล่าว