ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำไตรมาสแรกของปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 ผลประกอบการของกลุ่มกิจการตามงบการเงินรวมสำหรับไตรมาสที่ 1/2560 มีกำไรเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 130.22 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 129.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 0.83 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)สำหรับโครงการใหม่ในประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มสูงขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 36 โครงการกำลังการผลิตเสนอขายรวม 143.68 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นในประเทศ 29โครงการกำลังการผลิตเสนอขาย 121.7 เมกะวัตต์ และประเทศญี่ปุ่น จำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายจำนวน 21.98 เมกะวัตต์
ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 154.98 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดประมาณ 19,658 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเข้าลงทุนแล้วนั้นอยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องเอกสารในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาในโครงการดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
นอกเหนือจากโครงการดังกล่าวบริษัทฯยังมีแผนที่จะเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1-2 โครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รวมถึงบริษัทฯอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมในการยื่นเป็นผู้สนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับสหกรณ์ และหน่วยราชการในระยะที่ 2 โดยมีการขอมติคณะกรรมการบริษัทในการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป หรือ General Mandate จำนวน 544.5ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด โดยคาดว่า
จะสามารถระดมทุนได้ราว 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการใหม่ดังกล่าว ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการเพิ่มทุนใน 2 รูปแบบคือ การเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง หรือ PP และการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม หรือ ROโดยบริษัทฯจะพิจารณาตามความเหมาะสม
"เรามีแผนในการขยายการลงทุนในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องอีก 1-2 โครงการในปีนี้ รวมถึงการเข้าร่วมโครงการโซล่าร์สหกรณ์ และหน่วยราชการในระยะที่ 2 ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการดังกล่าว โดยมีการขอเพิ่มทุนจากคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อความยืดหยุ่นในการบริหารงาน ซึ่งการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทฯมีโครงการที่มีศักยภาพรองรับการเพิ่มทุนที่ชัดเจน และที่ผ่านมาบริษัทฯได้ประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนตามแผนมาโดยตลอด ซึ่งการขยายการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยขยายโอกาสในการสร้างรายได้ และผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต" ดร.แคทลีนกล่าว