MC ปิดไตรมาส 1 ปี 2560 กำไรเติบโต 15%

ศุกร์ ๑๒ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๐๙:๕๓
บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ("MC") ประกาศยอดขายไตรมาส1 ปี 2560 ที่ 1,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท เติบโต 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 จากการเติบโตของยอดขายและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า "ในไตรมาส 1 ปี 2560 ยอดขายของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 6.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ท่ามกลางกำลังซื้อที่แผ่วลงจากไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาตามทิศทางปกติของอุตสาหกรรม บริษัทได้รับประโยชน์จากการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าท่อนบน จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเปิดช่องทางและจุดขายใหม่ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายต่อร้านเดิมเพิ่มขึ้นในอัตรา 0.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีจุดจำหน่าย 883 แห่ง ลดลงจากสิ้นปี 2559 ทั้งสิ้น 14 แห่ง จากการลดจุดจำหน่ายในประเทศ 4 แห่งและในต่างประเทศ 10 แห่ง ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโปรแกรมตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ (Dealership reprogram) ที่จะมุ่งเน้นการปันทรัพยากรอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างฐานลูกค้าและสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล"

"สินค้าที่บริษัทเน้นยังคงเป็นเสื้อผ้าท่อนบนที่มีแบบใหม่ๆ มีดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยในไตรมาส1 บริษัทจัดโปรโมชั่นที่นำเสนอความคุ้มค่าและให้ลูกค้ารู้สึกสนุกในการช้อปปิ้งซื้อสินค้า ทั้งที่หน้าร้านของเราเองและทางช่องทางจำหน่ายออนไลน์ สำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ที่วางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ Activewear แบรนด์ "UP" และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ "M&C" ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี"

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในไตรมาส 1 ปี 2560บริษัทมีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายและจากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงเล็กน้อยจาก 51.8% ในไตรมาส 1 ปี 2559 เป็น 51.1% ในไตรมาส1 ปีนี้เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ขณะที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 31.9 จากร้อยละ 32.7 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นตามลำดับ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีระยะเวลาขายสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 เดือนลดลงจาก 12.1 เดือน ณ สิ้นปี 2559"

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงแผนธุรกิจว่า "สำหรับในไตรมาสที่เหลือของปี 2560 บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาคอลเลกชั่นใหม่ ตลอดจนสายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยในไตรมาส 2 นี้ นอกเหนือจากคอลเลกชั่นเสื้อฮาวายที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีแล้ว บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ยีนส์คอลเลกชั่นใหม่ Mc MOVE Denim ที่มีนวัตกรรมผ้ายีนส์ที่มีส่วนผสมของ Lycra และ T400 ที่ให้ความยืดหยุ่นและคืนตัวดีเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมเคลื่อนไหว พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และยังมี Activewear คอลเลกชั่นใหม่ของUP ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชอบออกกำลังกาย ในส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C บริษัทจะมีการวางจำหน่ายไลน์สินค้าใหม่ ได้แก่ สบู่ก้อน แป้งหอม และน้ำหอม เพิ่มเติมจากโลชั่นและเจลอาบน้ำที่วางจำหน่ายในที่ร้านค้าปลีกของตนเองและwww.mcshop.com นอกจากนี้จะเปิดจุดจำหน่ายแบบ Pop-up store สำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเดียวในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเร็วๆ นี้อีกด้วย"

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปีนี้บริษัทยังคงเน้นการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิ จากการเปิดจุดจำหน่ายใหม่ประมาณ 20-25 แห่ง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดต่างๆ ในครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบริโภคที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 1 ทำให้บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโตประมาณร้อยละ 10 ซึ่งลดลงจากประมาณการก่อนหน้าที่เคยคาดไว้ที่ร้อยละ 12-15 โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้นโดยลำดับจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการควบรวมโรงงานผลิตกางเกงยีนส์ 2โรงงานในกรุงเทพฯ เข้าด้วยกันเพื่อช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ตลอดจนเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น"

"สำหรับธุรกิจนาฬิกาซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ("TDC") ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ปัจจุบันได้มีการกำหนดกลยุทธ์การขายที่มุ้งเน้นในการบริหารประเภทและแบรนด์สินค้าให้สอดคล้องกับช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น ตลอดจนจะมีการจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกันมากขึ้น ภายหลังจากที่ TDC ย้ายที่ทำการมาอยู่บริเวณเดียวกันกับบริษัท และมีการใช้ Shared service ร่วมกันเพื่อบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ