มาลีกรุ๊ป (MALEE) เผยยอดขายส่งออกไตรมาส 1/2560 ยังคงเติบโตโดดเด่น 22% YoY

ศุกร์ ๑๒ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๐๔
นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือMALEE เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/2560 ว่า "ในไตรมาส 1/2560 ยอดส่งออกยังคงเติบโตโดดเด่น 22% YoY โดยเฉพาะจากยอดขายต่างประเทศของธุรกิจ Brand ที่เติบโตประมาณ 30% YoY ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์สำหรับแต่ละประเทศที่เป็นตลาดหลักของบริษัทฯ ได้อย่างเหมาะสม"

"ในไตรมาส 1/2560 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายรวม 1,515 ล้านบาท ปรับตัวลงเล็กน้อย 1% YoYจากการลดลงของยอดขายในประเทศของธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) และยอดขายในประเทศของธุรกิจตราสินค้าของบริษัทฯ (Branded Business: Brand) โดยเฉพาะยอดขายกลุ่มผลไม้กระป๋องในประเทศ"

"อย่างไรก็ตาม ยอดขายต่างประเทศยังคงเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจ Brand และ CMG ทั้งนี้ ถึงแม้ยอดขายโดยรวมในไตรมาส 1/2560 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่กำไรของกลุ่มบริษัทยังคงเติบโตได้ 8% YoY โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 118 ล้านบาท จากการบริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง"

"ในไตรมาส 1/2560 ธุรกิจการร่วมค้าของบริษัทฯ ในประเทศฟิลิปปินส์ คือ Monde Malee Beverage Corporation (MMBC) ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนยอดขายต่างประเทศ ทั้งนี้ MMBC ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่รายการที่ 2 คือ Jelly Drink ภายใต้แบรนด์ "Jelly Vit" ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมีกระแสตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ในระดับดี"

"บริษัทฯ ยังมีความมั่นใจว่ายอดขายจะสามารถเติบโตได้ร้อยละ 10-15ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปี 2560ซึ่งการเติบโตจะมาทั้งจากธุรกิจ Brand และธุรกิจ CMG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยอดขายต่างประเทศมีแนวโน้มการเติบโตสูงกว่าการเติบโตภายในประเทศ ซึ่งบริษัทฯ มองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Distributor หรือ Partner ในแต่ละประเทศ ในการวางแผนร่วมกัน เพื่อเลือกสรรผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นตลาดหลักของบริษัทฯ เช่น กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Countries) ในอาเซียน รวมถึงประเทศจีน เป็นต้น"

"บริษัทฯ อยู่ระหว่างการปรับปรุงโรงงาน และเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2559 ต่อเนื่องมาปี 2560 และจะแล้วเสร็จในปี 2561 โดยจะรวมถึงการลงทุนในเครื่องจักรสายการผลิตใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องจักรสายการผลิตเดิม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/2560ทั้งนี้ เครื่องจักรสายการผลิตใหม่นี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน และจะสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายขึ้น มีประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้า โดยศักยภาพการผลิตที่สูงขึ้นของเครื่องจักรสายการผลิตใหม่นี้ จะเพิ่มโอกาสในการหาลูกค้ารายใหม่ หรือสินค้าใหม่เพิ่มเติมจากปัจจุบัน รวมถึงจะช่วยเพิ่มรายได้ ผลกำไร และอัตราการทำกำไรของบริษัทฯ ตามอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO