ปลัด.ท่องเที่ยวฯ เสนอที่ประชุมโต๊ะกลม “ท่องเที่ยวเมืองไทยอย่างยั่งยืน”

จันทร์ ๑๕ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๐๙:๕๘
โดยน้อมนำแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเป็นหลักในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประชุมร่วมกับองค์การการท่องเที่ยวโลกเพื่อหารือมิติการท่องเที่ยวเมืองไทยแบบยั่งยืน เพื่อสอดรับการประกาศให้ปี พ.ศ. 2560 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นวิทยากรของการประชุมโต๊ะกลม ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 เวลา 16.30-19.30 น. ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปนโดยได้รับเกียรติจาก ดร.ทาลิป ริฟาย เลขาธิการ UNWTO เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งมีวิทยากรร่วมในการประชุมดังกล่าว อาทิ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวอาเจนติน่า รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวสาธารณรัฐเกาหลี นายกเทศมนตรีแห่งสภาเมืองมาลาก้า ผู้บริหารระดับสูงจากหน่ยงานการท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และผู้อำนวยการจากสมาคมสถาปนิกมาดริด การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อหารือถึงมิติของการท่องเที่ยวเมืองแบบยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับการเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนา ในปี 2560

นายพงษ์ภาณุ ได้นำเสนอมิติการท่องเที่ยวเมืองของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยได้น้อมนำแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ในหลวงรัชการที่ 9 มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับคนในชุมชนเพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชนที่ประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้คนในชุมชนต่างๆ อยู่ได้ด้วยตนเองบนพื้นฐานความพอเพียงอย่างยั่งยืน และคนในชุมชนเหล่านี้จะเป็นผู้ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนประสบการร์จากแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ในชุมชนไปสู่การท่องเที่ยวในพื้นที่เมือง

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้รับการขนานนามจาก Master Card ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอับ 1 ของโลก และได้รับการยกย่องจาก CNN เป็นเมือง Best Street Food สองปีติดต่อกัน ซึ่งจากการจัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ของโลกนี้ ส่งผลให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม และอาหารที่มีความหลากหลาย ซึ่งสามารถหารับประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอาหารที่ขายตามริมทาง (Street Food)

"คาดว่าในปี 2030 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยถึง 60 ล้านคน หากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นย่อมส่งผลกระทบในด้านต่างๆ เช่น ระบบสาธารณูปโภค ระบบการขนส่ง และการรองรับนักท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีบทบาทและร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหา โดยการเพิ่มระบบการอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งที่สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น การจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลดีในภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของไทย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และสามารถครองแชมป์การเป็นเมืองน่าเที่ยวของโลกไว้ได้อีกด้วย" ปลัดท่องเที่ยวฯ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version