ซึ่งมีนายสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประธานกล่าวเปิด และได้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มย่อย (Panel Discussion) ในหัวข้อ "ความเชื่อมโยงทางการเงิน" (Financial Connectivity) ว่าการประชุมมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ที่ประชุมตระหนักถึงบทบาทของภาคการเงินว่าเป็นเสมือน "เส้นเลือด" ที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากคำกล่าวเปิดของนายสี จิ้นผิง ได้ประกาศที่จะเพิ่มทุนในกองทุน Silk Road Fund จำนวน 100,000 ล้านหยวน (หรือประมาณ 520,000 ล้านบาท) ซึ่งกองทุนดังกล่าว สาธารณรัฐประชาชนจีนได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2557เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แนวคิดริเริ่ม Belt and Road โดยที่ประชุมได้ให้การสนับสนุนแนวคิดริเริ่ม Belt and Road เป็นอย่างดี
2. ที่ประชุมกลุ่มย่อยในหัวข้อความเชื่อมโยงทางการเงิน ได้หารือถึงแนวทางการระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุน Belt and Road ซึ่งมีหลายช่องทาง ทั้งจากเงินงบประมาณ เงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับพหุภาคี (Multilateral Development Banks : MDBs) การออกตราสารหนี้ และการระดมทุนผ่านผู้ถือหุ้น รวมถึงความสำคัญของการระดมทุนจากภาคเอกชน โดยเห็นว่า การดึงดูดภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานตามแนว Belt and Road นั้น จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการโครงการที่ดีและเป็นโครงการที่น่าลงทุน (Bankable Projects) สำหรับการระดมทุนผ่าน MDBs นั้น ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) จะมีบทบาทสำคัญ ซึ่ง AIIB ได้เน้นย้ำบทบาทการเป็นหุ้นส่วนทางการเงินของประเทศตามแนว Belt and Road และได้ให้ความสำคัญกับระบบธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างการประชุมกลุ่มย่อย ปลัดกระทรวงการคลังได้ร่วมรับรองเอกสาร Guiding Principles on Financing the Development of the Belt and Road ร่วมกับผู้แทนกระทรวงการคลังอื่นรวม 18 ประเทศจากทวีปเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้ (ในจำนวนนี้มีประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ได้แก่ กัมพูชาอินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย และเมียนมา) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประเทศต่าง ๆ ในการสร้างความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมแนวคิดริเริ่ม Belt and Road และสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
การประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแนวคิดริเริ่ม Belt and Road อย่างจริงจัง ซึ่งความเชื่อมโยงทางการเงินถือเป็นประเด็นสำคัญที่มีการหยิบยกขึ้นหารือในการประชุมครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการสร้างความเชื่อมโยงการค้าการลงทุนตามแนว Belt and Road ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะยาว ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ เอกชน และองค์การระหว่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้ การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในการสนับสนุนการพัฒนาความเชื่อมโยงทั้งในและระหว่างภูมิภาคให้มากขึ้น
ส่วนความร่วมมือภูมิภาคและพหุภาคี สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 02 2739020 ต่อ 3622