นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 146.469 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73.514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.808 ล้านบาท หรือคิดเป็น 340 % เมื่อเทียบกับผลดำเนินงานปี 59 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.706 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้มี การรุกปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนของ ผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยพอร์ตสินเชื่อสินไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ระดับ 4,700 ล้านบาท อีกทั้งยังมีการเติบโตของการให้บริการ Call Center ภายใต้บริษัทย่อย โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด ที่มีการขยายฐานบริการทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ที่มีเข้ามาทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่มีการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมแย้ม Call Center อาจได้รับงานโปรเจคใหญ่ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปกันได้ เร็ว ๆนี้
" ผลการดำเนินของบริษัทฯและบริษัทย่อย มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งทางทีมผู้บริหารยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและความถูกต้องโดยเน้นถึงประโยชน์ของบริษัทและของผู้ถือหุ้นสูงสุด แม้ที่ผ่านมาบริษัทฯต้องเผชิญกับข่าวลือที่จงใจทำลายภาพพจน์และชื่อเสียงแต่ทางทีมบริหารก็ไม่หวั่นไหวและจะไม่ย่อท้อแต่จะพิสูจน์กันด้วยผลงาน ซึ่งก็สามารถพิสูจน์โดยการทำกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น Quarter ที่ 7 แล้ว ภายใต้การบริหารของทีมบริหารรุ่นใหม่ และยังคงมุ่งมั่นที่จะทำต่อไปจึงอยากให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า "ACAP" เป็นบริษัทฯที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน" นางสาวสุกัญญา กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อ เพิ่มขึ้น เป็น 6,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2559 ที่มีพอร์ตสินเชื่อแตะระดับ 4,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อ จะยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดใหญ่ อีกทั้งในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากการเติบโตของธุรกิจ Call Center ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี2559 ที่มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 135 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะมีการให้บริการด้านสินเชื่อกับผู้ประกอบการขนาดย่อม (SMEs) ในปีนี้ เพิ่มมากขึ้น เพราะกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวมีความต้องการใช้เงินเพื่อรองรับการขยายการลงทุนและเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนการให้บริการสินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ และ ขนาดกลาง ประมาณ 80% และอีก 20% เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก
สำหรับ ความคืบหน้าการเจรจาพันธมิตรต่างประเทศ อาทิ พม่า และ กัมพูชา กระบวนการต่างๆ จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้บริษัทได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องคำนึง ถึงปัจจัยความเสี่ยงให้มากที่สุด แต่คาดว่าน่าจะสามารถสรุปได้ภายในเร็ว ๆ นี้
" ACAP มีการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯ โดยตรวจเช็คประวัติลูกค้า ความสามารถในการชำระหนี้ และตรวจสอบข้อกฎหมาย รวมถึง ตรวจสอบคุณภาพทรัพย์สินก่อนปล่อยสินเชื่อ อย่างละเอียด ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ไม่แตกต่างจากสถาบันการเงินทั่วไป แต่บริษัทฯมีการดำเนินการได้กระชับ รวดเร็วและยืดหยุ่นให้กับผู้ประกอบการมากที่สุดโดยยึดหลักถึงความถูกต้องเป็นสำคัญ " นางสาวสุกัญญา กล่าว