ฟาร์มโคนม เชียงใหม่เฟรชมิลค์ ต้นแบบ Green Farm ด้วยนวัตกรรมทันสมัย รักษ์สิ่งแวดล้อม

อังคาร ๒๓ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๓๖
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ลงพื้นที่ฟาร์มโคนม บริษัทเชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด ศึกษาแนวทางบริหารจัดการฟาร์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Farm ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ สามารถรีดนมพร้อมกันถึง 64 ตัว ใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 15 นาที ส่วนมูลโค นำมาใช้ผลิตก๊าซชีวภาพ สู่การผลิตกระแสไฟฟ้าที่เทียบเท่าก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์

นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ฟาร์มโคนม บริษัทเชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด ณ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 19พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นตัวอย่างฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ที่พัฒนาเพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานระดับสากล มีระบบบริหารจัดการที่ดีและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผสมผสานกับการเลี้ยงและดูแลวัวนมตามพฤติกรรมและความเป็นธรรมชาติ โดยมีนักวิชาการด้านสัตวบาล นักวิจัย และสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ใหญ่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ระบบโรงเรือน ได้ออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดีเพื่อช่วยลดความร้อนที่เกิดจากตัวของวัวนม โดยออกแบบตามหลักวิศวกรรม มีชายคาสูง 4 เมตร มีพัดลมระบายอากาศโล่งโปร่งให้ลมเข้าออกได้สะดวก มีการออกแบบซองนอนพร้อมเบาะรองนอน เพื่อให้วัวนอนพักผ่อนและหลับอย่างสบาย และมีระบบ Happy Cow ซึ่งเป็นเครื่องนวดที่ช่วยทำความสะอาดวัวนมอีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในโรงเรือนยังใช้เครื่องกวาดมูลแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ภายในโรงเรือนสะอาดตลอดเวลา และทำให้วัวนมมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น การให้อาหารของวัวนม เน้นตั้งแต่การปลูกหญ้าเอง ที่แปลงหญ้าอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีกระบวนการผสมอาหาร TMR (Total mixed ration) ซึ่งเป็นการนำอาหารหยาบและอาหารข้นมาผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม จนถึงการให้อาหารตามคอกที่เป็นเวลาเพื่อให้วัวนมมีสุขลักษณะที่ดี มีระบบรีดนมอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เป็นระบบปิดอัตโนมัติแบบพาราเรล ซึ่งสามารถรีดนมวัวได้พร้อมกันครั้งละ 64 ตัว ใช้เวลารีดตลอดทั้งกระบวนการเพียง 10-15 นาที

ด้านสิ่งแวดล้อม มีระบบเปลี่ยนน้ำเสียและมูลสัตว์เป็นพลังงานทดแทน ถือเป็น Green Farm ที่มีการจัดการฟาร์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศด้วยการนำมูลโคทั้งหมดภายในโรงเรือน ผลิตก๊าซชีวภาพ หรือ ไบโอก๊าซ สู่ระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าและสามารถนำก๊าซไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบก๊าซไบโอเทนอัด หรือ compressed bio-methane gas (CBG) ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติสำหรับเติมรถยนต์ เครื่องจักรการเกษตร และปั่นไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม ส่วนกากตะกอนที่ได้สมารถนำไปผลิตปุ๋ยอัดเม็ดอีกด้วย

ทั้งนี้ สินค้าโคนม นับเป็นหนึ่งในสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญ (Top 4) ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ ในครั้งนี้ทำให้เห็นต้นแบบความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเกษตรตลอดกระบวนการผลิต เพื่อให้น้ำนมมีคุณภาพ มาตรฐาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร โดยตลอดกระบวนการผลิตได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ