ประชาชน 72.93% ระบุในรอบสามปีที่ผ่านมาไม่รู้สึกว่าถูก คสช. จำกัดเสรีภาพในการดำเนินชีวิตประจำวันเกินไป แต่ร้อยละ 70.88 อยากให้ คสช. รับฟังความคิดเห็นประชาชนมากขึ้น ขณะที่ส่วนใหญ่ยังคงพึงพอใจต่อการทำงานโดยรวมของ คสช.

พุธ ๒๔ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๓๕
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส ,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) แถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการบริหารงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในรอบ 3 ปี ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 ถึง 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,171 คน

ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 นี้จะเป็นวันครบรอบสามปีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เข้าควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการดำเนินการเพื่อปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายในด้านต่างๆของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีทั้งผู้ที่พึงพอใจและไม่พึงพอใจ ขณะที่ยังคงมีผู้คนในสังคมได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังคงมีปัญหาต่างๆของประเทศที่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่มีผู้คนอีกส่วนหนึ่งยังคงให้กำลังใจและชื่นชมการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนั้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีในการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการบริหารงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในรอบ 3 ปี โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 ถึง 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.56 และเพศชายร้อยละ 49.44 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความพึงพอใจต่อการบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งจำแนกออกเป็น 10 ด้านคือ 1) การปลูกฝังให้คนไทยมีจิตรสำนึกรักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2) การแก้ไขปัญหายาเสพย์ติด/อบายมุข/การพนัน 3) การแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภค/บริโภคราคาแพง 4) การสร้างความสามัคคีลดความขัดแย้งของคนในชาติ 5) การแก้ไขความไม่สงบ/ความวุ่นวายทางการเมือง 6) การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ 7) การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในนโยบาย/กิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัฐ 8) การปราบปรามผู้มีอิฐธิพล/การกระทำผิดกฎหมาย 9) การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร/ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ และ 10) การดำเนินการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรมนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากต่อการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในด้านการปลูกฝังให้คนไทยมีจิตรสำนึกรักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์คิดเป็นร้อยละ 46.71 การแก้ไขความไม่สงบ/ความวุ่นวายทางการเมือง

คิดเป็นร้อยละ 45.26 การแก้ไขปัญหายาเสพย์ติด/อบายมุข/การพนันคิดเป็นร้อยละ 38.51 และการปราบปรามผู้มีอิฐธิพล/การกระทำผิดกฎหมายคิดเป็นร้อยละ 29.12 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลางต่อการทำงานในด้านการสร้างความสามัคคีลดความขัดแย้งของคนในชาติคิดเป็นร้อยละ 33.48 การดำเนินการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรมคิดเป็นร้อยละ 32.88 และการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในนโยบาย/กิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัฐคิดเป็นร้อยละ 31.34 แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ การแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภค/บริโภคราคาแพง และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร/ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำซึ่งคิดเป็นร้อยละ 33.9 ร้อยละ 31.94 และร้อยละ 29.21 ตามลำดับ

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการบริหารงานตลอด 3 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 42.1 ระบุว่าตนเองมีความพึงพอใจในการบริหารงานในช่วงปีแรกมากที่สุด ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 18.87 ระบุว่าตนเองมีความพึงพอใจในช่วงปีที่สองมากที่สุด โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 8.37 ระบุว่ามีความพึงพอใจในการบริหารงานในช่วงปีที่สามมากที่สุด อย่างไรก็ตามมีกลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 23.83 มีความพึงพอใจทั้งสามปีเท่าๆกัน และมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.83 ไม่มีความพึงพอใจทั้งสามปีเลย

ในด้านระดับความพึงพอใจต่อการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยรวม และการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.77 มีความพึงพอใจในการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีอยู่ในระดับมาก ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.22 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 19.47 มีความพึงพอใจน้อย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 8.54 ไม่มีความพึงพอใจเลย นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 35.01 มีความพึงพอใจต่อการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยรวมอยู่ในระดับมาก ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 32.19 พึงพอใจในระดับปานกลาง ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.78 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.02 ไม่มีความพึงพอใจเลย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 34.84 มีความพึงพอใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.4 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.06 มีความพึงพอใจน้อย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.7 ไม่มีความพึงพอใจเลย

และในด้านความรู้สึกต่อการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.93 ระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตนเองไม่รู้สึกว่าถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตประจำวันมากเกินไป อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.88 มีความคิดเห็นว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจำเป็นต้องเพิ่มการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในกรณีที่จะบังคับใช้กฎหมาย/มาตรการที่ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน/การประกอบอาชีพของประชาชนให้มากขึ้น ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version