ดร. นพดล ปิยะตระภูมิ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) เปิดเผยว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพสำหรับอาชีพนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้กลุ่มอาชีพนักวิทยาศาสตร์การกีฬา มีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพที่ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ รวมทั้ง เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่เป็นองค์กรรับรองสมรรถนะในกลุ่มอาชีพนี้
"ที่ผ่านมาประเทศเรามีคุณวุฒิอย่างเดียว คือ คุณวุฒิการศึกษา ที่จะเป็นใบเบิกทางให้ทุกคนได้รับโอกาสในเข้าทำงานในสถานประกอบการ แต่คุณวุฒิวิชาชีพ เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สคช. ได้ดำเนินการสนับสนุนทุกอาชีพให้ได้รับการรับรองสมรรถนะบุคคลตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ สคช. จะได้ร่วมส่งเสริมให้อาชีพนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย ได้รับการรับรองมาตรฐานอาชีพเพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เปิดเสรีประชาคมอาเซียน จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกอาชีพควรมีมาตรฐานรับรองเพื่อให้สามารถแข่งขันแรงงานกับประเทศในอาเซียนด้วยกันได้ " ดร.นพดล กล่าว
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่วงการนักวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ จะได้มีการรับรองมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งทาง กกท. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ สคช. ในการส่งเสริม สนับสนุนให้อาชีพนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในบ้านเราให้มีมาตรฐานรับรอง ซึ่งในต่างประเทศมีมานานแล้ว นอกจากจะเป็นการรับรองแล้วยังเป็นเสมือนเกราะป้องกันบุคลากรในวงการนี้ให้ได้รับความยุติธรรม เป็นหลักประกันความมั่นคงในวิชาชีพอีกด้วย
ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถ นานา นายกสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปีมีบัณฑิตที่จบปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัยประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าคน การมีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพสำหรับนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย จะเป็นการประกันความสามารถสมรรถนะในการทำงาน และความเชี่ยวชาญให้กับอาชีพนี้ ซึ่งนิสิต นักศึกษาก็สามารถเข้ารับการสอบประเมินศักยภาพได้ตั้งแต่กำลังศึกษาอยู่ เมื่อเรียนจบไปแล้วสามารถนำคุณวุฒิวิชาชีพที่สอบวัดระดับได้แนบประกอบการสมัครงานได้ด้วย จะทำให้มีโอกาสในการได้งานจากสถานประกอบการชั้นนำได้ง่ายขึ้น โดยตั้งแต่ ๑ มิถุนายนนี้ นิสิต นักศึกษาที่สมัครสอบในระดับ ๓-๔ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม ส่วนระดับ ๕ ค่าธรรมเนียมเพียง ๕๐๐ บาท ระดับ ๖ ค่าธรรมเนียม ๑,๐๐๐ บาท และระดับ ๗ ค่าธรรมเนียม ๑,๕๐๐ บาท จากค่าธรรมเนียมอัตราปกติอยู่ที่ ๒,๕๐๐ บาทในทุกระดับ โดยจะเข้ารับการประเมินเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมนี้ ดูรายละเอียดได้ที่www.sportscience.or.th