นายคมสัน ทองตัน กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2559ว่า เป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีอัตราเติบโตขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ ทำให้มีรายได้รับรวมทั้งสิ้น1,100 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยเป็นเบี้ยประกันจากประกันภัยนักเรียน ภายใต้ชื่อ"โครงการโรงเรียนอุ่นใจ" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท จำนวน 50% และเบี้ยประกันจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก50% และถือเป็นรายได้รับรวมที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 70 ปี ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นบริษัทประกันภัยขนาดกลาง จึงได้มีการลงทุนขยายงานในส่วนต่างๆ อาทิ การลงทุนในระบบเทคโนโลยีทั้งในส่วนของการให้บริการลูกค้าโดยตรงและระบบงานสนับสนุน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการให้บริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงการลงทุนในสำนักงานสาขาให้มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ผลประกอบการที่ติดลบในปี 2559 ไม่กระทบฐานะกองทุนของบริษัทอย่างแน่นอน โดยในขณะนี้บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสูงถึง 400% จากที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 100% ดังนั้น ผู้เอาประกันภัยจึงมั่นใจได้ว่า สยามซิตี้ประกันภัยสามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ทุกรายอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้ถือหุ้น ยืนยันพร้อมที่จะเพิ่มทุนในทันที เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้มั่นใจว่า บริษัทแข็งแกร่งทั้งในด้านเงินทุนและความมั่นคง
"ผลประกอบการของบริษัทในปี 2559 เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเติบโตขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ แต่เนื่องจากเราตั้งเป้าว่าจะขยับจากบริษัทประกันภัยขนาดเล็ก ขึ้นเป็นบริษัทประกันภัยขนาดกลาง เราจึงจำเป็นต้องมีการลงทุนขยายงานเพื่อรองรับ ทำให้ผลประกอบการรวมในปี 2559ของเราติดลบ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการวางรากฐานให้แข็งแกร่งเพื่อรับกับรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และต้องขอย้ำว่าถึงแม้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาจะติดลบ ก็ไม่ได้กระทบฐานะกองทุนที่มั่นคงของบริษัทแต่อย่างใด ผู้ที่เอาประกันภัยกับเราสบายใจได้อย่างแน่นอน" นายคมสัน ย้ำ
โดยในปี 2559 บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย ได้รับการจัดอันดับเบี้ยประกันภัยรับตรงของบริษัทประกันวินาศภัย (Market Ranking) เป็นอันดับที่ 35 จากบริษัทประกันวินาศภัยทั้งหมด 60 บริษัท
สำหรับกลุยทธ์ในปี 2560 สยามซิตี้ประกันภัยจะขยายเบี้ยประกันภัยจากประกันภัยนักเรียน ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก และเป็นอันดับ 1 ในตลาดกลุ่มนี้ โดยคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% พร้อมรุกตลาดประกันภัยรายย่อยด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทุกช่วงอายุ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปี 2560 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน โดยการเติบโตดังกล่าวจะเน้นงานที่มีคุณภาพ และ งานจากแหล่งงานคุณภาพ