นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ร่วมกับองค์การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งตุรกี (KOSGEB) จัดงานเจรจาการค้าระหว่าง SMEs ไทย-นักธุรกิจตุรกีในงาน "Thai-Turkish SMEs B2B Meeting" ระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2560 ณ ประเทศตุรกี ภายใต้กิจกรรมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEsไทย–ตุรกี ซึ่งนายสุไลมาน อิสลาโมคูล รองประธานองค์กร KOSGEB ร่วมเป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.สุวัฒน์ จีราพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ อังการา ร่วมเป็นเกียรติ
การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ สสว. ถือเป็นหน่วยงานภาครัฐของไทยที่คัดเลือกนำผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่มีศักยภาพกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับ (SME Strong /Regular Level) จำนวน 28 ราย ร่วมเจรจากับนักธุรกิจตุรกีกว่า 80 ราย ทำให้เกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจได้ 53 คู่ค้า สามารถสร้างยอดขายจากการเจรจาครั้งนี้ได้ทั้งสิ้น 85 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs นำสินค้าและบริการใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อาหาร เครื่องสำอาง สปา เครื่องประดับ ท่องเที่ยว และของตกแต่งบ้าน โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากนักธุรกิจของตุรกี คือ สินค้าอาหารประเภทขนมขบเคี้ยวและผลไม้ของไทย เช่น ผลไม้อบแห้ง ถั่วหิมพานต์เคลือบเกล็ดมะพร้าว มะพร้าว มะขาวฝัก ขมิ้นสด เป็นต้น รองลงมาเป็นบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่สื่อถึงความเป็นไทยและนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลุ่มสินค้าและบริการด้านความงามและสปา ตามลำดับ
การจัดงานเจรจาธุรกิจครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้กิจกรรมการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs ไทย–ตุรกี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ของทั้งสองประเทศ ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถแข่งขันตลาดต่างประเทศของ SMEs ไทย โดยเฉพาะด้านการตลาดได้ ซึ่ง สสว. ได้มีการลงนามกรอบความร่วมมือด้านการส่งเสริมร่วมกับ KOSGEB เมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม 2559 และ สสว.จะพยายามจัดกิจกรรมลักษณะนี้ต่อไป
ประเทศตุรกี ถือเป็นตลาดใหม่สำหรับ SMEs ไทย ที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพกำลังซื้อสูง มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายกว้างขวางครอบคลุมยุโรป และแอฟริกาเหนือ ทั้งนี้ หาก SME ไทยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งไทยและตุรกี ตลาดเหล่านี้จะเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของเอกชนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการจัดทำ FTA ไทย-ตุรกี บรรลุผลสำเร็จ
นอกจากนี้ ฝ่ายตุรกีแจ้งว่าเตอร์กิชแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติตุรกีกำลังจะเปิดเที่ยวบินตรงจากอิสตันบูลมายังภูเก็ต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและตุรกีซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการขยายตัวด้านการค้า และการท่องเที่ยวช่วยทำให้สินค้าและบริการของทั้งสองฝ่ายเป็นที่รับรู้มากยิ่งขึ้นในหมู่ผู้บริโภค