วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย คุณสมชาติ สุรจิตติพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวการเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน ฟุตบอลยูโร่ เค้ก ลีกโปร (T3) และ ยูโร่ เค้ก ลีก (T4)
ฟุตบอลยูโร่ เค้ก ลีกโปร (T3) และ ยูโร่ เค้ก ลีก (T4) เป็นลีกที่มีทีมรวมมากถึง 90 ทีม แบ่งเป็น ฟุตบอลยูโร่ เค้ก ลีกโปร (T3) 29 ทีม และ ยูโร่ เค้ก ลีก (T4) 61 ทีม ทำให้มีแฟนบอลทั่วประเทศติดตามชมเป็นจำนวนมาก
ด้วย คุณสมชาติ สุรจิตติพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลรายการนี้ว่า "บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ ของกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วประเทศอย่างมากในปัจุบัน ทางบริษัทฯจึงต้องการร่วมพัฒนาศักยภาพทางกีฬาฟุตบอลให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศตั้งแต่สโมสรระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด และ ระดับภูมิภาค เพื่อเป็นฐานสำคัญในการก้าวขึ้นสู่ลีกชั้นนำของประเทศ จนถึงลีกระดับนานาชาติ ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลในระดับนี้ประชาชนต่างให้ความสนใจและมีทีมเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก เมื่อนำแฟนบอลทุกทีมมารวมกัน ถือว่าเป็นกลุ่มแฟนบอลที่มีจำนวนมากมายทั่วทั้งประเทศ และยังถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ยูโร่เค้กอีกด้วย
ทั้งนี้ทางบริษัทจึงต้องการให้ ยูโร่เค้กลีกโปร และ ยูโร่เค้กลีก เป็นอีกช่องทางการส่งเสริมนักฟุตบอลในระดับท้องถิ่นตามพื้นที่ต่างๆ ให้มีโอกาสประลองฝีเท้ากับนักเตะทีมอื่นๆจากพื้นที่ต่างๆในประเทศ เพื่อช่วยยกระดับและมาตราฐานให้กับนักฟุตบอลระดับท้องถิ่นให้ขึ้นมาเสริมศักยภาพในวงการฟุตบอลลีกของประเทศต่อไปอีกด้วย
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ในฤดูกาลนี้สมาคมฯได้พัฒนาการแข่งขันของลีกภูมิภาคให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการนำเรื่องคลับไลเซนซิง หรือ ใบอนุญาตสโมสรสำหรับการเข้าร่วมลีก ซึ่งแต่ละทีมต้องผ่านการตรวจประเมิน เพื่อการแข่งขันที่เข้มข้นและเป็นการให้แต่ละทีมเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นสู่ลีกระดับสูงต่อไป
"สมาคมฯต้องขอขอบคุณบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) ที่เห็นความสำคัญของไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4 โดยการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งสมาคมเชื่อว่าการแข่งขันทั้งสองรายการจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ด้วยการมีสโมสรอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ นักฟุตบอลในแต่ละพื้นที่จะได้มีเวทีพัฒนาฝีเท้า อีกทั้งการเปิดโอกาสให้สโมสรระดับโตโยต้า ไทยลีก ส่งทีมสำรองเข้าร่วมแข่งขันใน ยูโร่ เค้ก ลีก (ไทยลีก 4) ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลระดับเยาวชนได้มีเกมการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนาฝีเท้ากับผู้เล่นในลีก เป็นการต่อยอดก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่สโมสรและทีมชาติต่อไป