“ปาเท็กซ์” แบรนด์ที่นอนและหมอนยางพาราเพื่อสุขภาพ รุกตลาดเต็มสูบ เตรียมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เจาะลูกค้าใหม่เพิ่มในไทย

อังคาร ๓๐ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๒๓
ปัตตานีอุตสาหกรรม ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่นอนและหมอนยางพาราของไทย ที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 46 ปี ส่งแบรนด์ "ปาเท็กซ์" รุกตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ตั้งเป้ายอดขายรวมที่ 1,450 ล้านบาท เติบโตเพิ่ม 10-15% พร้อมสานต่อตลาดใหญ่ในประเทศจีน ตั้งเป้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างน้อย 100 แห่งในปีนี้ ด้านตลาดในประเทศเตรียมรีแบรนด์ดิ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่ม

นายณัฐพัฒน์ นิธิอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปัตตานีอุตสาหกรรม (1971) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย หมอนและที่นอน จากฟองน้ำยางพารา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากยางพารา100% ถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ผลิตฟองน้ำยางพารา ด้วยความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยียางและโพลิเมอร์โดยเฉพาะ ประกอบกับพื้นที่ในจังหวัดปัตตานีมียางพาราเป็นจำนวนมาก เมื่อดำเนินการมาระยะหนึ่งจึงได้ก่อตั้ง บริษัท ปัตตานีอุตสาหกรรม (1971) จำกัด ในปี พ.ศ.2514 หรือปี ค.ศ. 1971 ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ จนปัจจุบันสืบทอดมาถึงทายาทในรุ่นที่ 3

"ปัตตานีอุตสาหกรรม ผลิตและจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากการรับซื้อน้ำยางในพื้นที่ 3จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง ใช้น้ำยางสดจากสวน นำมาแปรรูปเป็นน้ำยางข้น ส่งต่อมายังโรงงานที่ 2 เพื่อแปรรูปเป็นฟองน้ำยางพารา และนำมาผลิตต่อเป็นหมอน ที่นอน และท็อปเปอร์ยางพารา ตัดเย็บเพื่อบรรจุหีบห่อส่งขายภายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ จุดเด่น ของสินค้าเราคือใช้ยางพารา 100% เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ จึงทำให้สินค้าที่เป็นหมอนและที่นอนยางพาราของเราได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ โดยมีแบรนด์หลักคือ "ปาเท็กซ์" ซึ่งแบรนด์นี้ในประเทศจีนจะรู้จักในนาม ไทยปาเท็กซ์ (Taipatex)" นายณัฐพัฒน์ กล่าว

นายณัฐพัฒน์ กล่าวถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์จากฟองน้ำยางพาราว่า จุดเด่นที่ทำให้ ผลิตภัณฑ์ของปาเท็กซ์ ได้รับการตอบรับ เนื่องจากฟองน้ำยางพารามีคุณสมบัติในเรื่องของความยืดหยุ่นสูง ซึ่งวัสดุประเภทอื่นเลียนแบบได้ยาก เมื่อเรานำฟองน้ำยางพารามาผลิตเป็นหมอน หรือที่นอน จึงให้คุณสมบัติในเรื่องของการยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักของร่างกายได้เป็นอย่างดี ผสานกับการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ เช่น ที่นอนยางพาราของเรามีการออกแบบรองรับ 7 ส่วนของร่างกาย หรือหมอนรูปแบบหรือรูปทรงต่างๆ ที่มีการรองรับกระดูกต้นคอ มีหลายขนาดและหลายรูปทรงที่เหมาะสมกับการนอนในแต่ละคน ในตลาดจึงให้การยอมรับว่าหมอนและที่นอนยางพาราเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ

นายณัฐพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ มีทั้งจำหน่ายในประเทศไทยและต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทย ช่วงแรกเน้นทำการตลาดในต่างจังหวัด คล้ายกับป่าล้อมเมือง แต่ในปัจจุบันเราจำหน่ายเกือบทุกจังหวัดผ่านดีลเลอร์ที่จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงโมเดิร์นเทรด ในกลุ่มของเซ็นทรัลฯ กลุ่มโฮมเวิร์ค ในส่วนตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราจำหน่ายสินค้าในประเทศแถบยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียในกลุ่มของ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา แต่ปัจจุบันเน้นจำหน่ายสินค้าในตลาดจีนเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการใช้สินค้าเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะหมอนยางพาราเป็นจำนวนมาก จากเดิมมีอัตราส่วนการส่งออกที่ 60% แต่ในปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น80% โดยเฉพาะในตลาดประเทศจีนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก

สำหรับการรุกตลาดในประเทศจีน บริษัทฯ เริ่มเข้าทำตลาดได้ประมาณ 3 ปี ผ่านพาร์ทเนอร์โดยใช้แบรนด์ ปาเท็กซ์ การทำตลาดในช่วงแรกผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้ทั่วประเทศจีน ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร และทำให้ ไทยปาเท็กซ์ (Taipatex) ได้รับการยอมรับในประเทศจีน โดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-บน ทำให้หมอนที่ผลิตจากฟองน้ำยางพาราได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปีนี้เราจะมุ่งเน้นการทำตลาดออฟไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย และช่องทางการจัดจำหน่ายที่เป็นโมเดิร์นเทรด ในประเทศจีน โดยตั้งเป้าช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์ในประเทศจีนไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง ในปีนี้

นายณัฐพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาว่า การขยายไปสู่ตลาดประเทศจีนในปี 2558 ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 20% โดยมียอดขายรวมทั้งกลุ่มที่ 1,200 ล้านบาท เป็นยอดขายจากการส่งออก 70% และยอดขายในประเทศ 30% ส่วนในปี 2559 มียอดขายทั้งกลุ่มที่ 1,350ล้านบาทเติบโตเพิ่ม 10-15% โดยมียอดขายจากการส่งออกเพิ่มเป็น 80% ของรายได้รวม ซึ่งในยอดขายจากการส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น กลุ่มลูกค้าหลักคือ ประเทศจีน มีโดยมีสัดส่วนที่ 70% ของการส่งออกทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 750 – 800 ล้านบาท

สำหรับในปี 2560 บริษัทมีแผนในการสร้างแบรนด์ ปาเท็กซ์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมๆ กัน โดยตั้งเป้าการเติบโตอย่างน้อยที่ 10-15% หรือมีรายได้รวมประมาณ 1,450 ล้านบาท ในประเทศจีน ปี้นี้จะนำสินค้ากลุ่ม "ปาเท็กซ์ ท็อปเปอร์" เข้าสู่ตลาดประเทศจีนมากขึ้น นอกจากนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้าประมาณปี 2563 จะนำที่นอนใหญ่รุกตลาดเพิ่มเช่นกัน สำหรับประเทศไทยในปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการกลับมารีแบรนด์ดิ้ง แบรนด์ ปาเท็กซ์ เพื่อเจาะลูกค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำตลาดในประเทศอื่นๆ ที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version