มรภ.สงขลา แนะเกษตรกรเรียนรู้จัดการที่ดินอย่างยั่งยืน

อังคาร ๓๐ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๓๗
มรภ.สงขลา ติวเกษตรกรรู้จักวางแนวทางจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน ชี้พื้นที่เขตชนบทน่าห่วง แนะเปิดโอกาสผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมตัดสินใจ ควบคู่ส่งเสริมต้นทุนด้านสังคม

ดร.มุมตาส มีระมาน อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา (มรภ.สงขลา) วิทยาเขตสตูล ผู้เสนอโครงการอบรมการปรับตัวของเกษตรกรเพื่อรองรับการจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เปิดเผยถึงที่มาของการจัดอบรมเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมในพื้นที่ จ.สตูล กำลังอยู่ในสภาวะความกดดัน ซึ่งจากเวทีระดมความคิดเห็นพบว่าพื้นที่เกษตรกรรมยังขาดการจัดการที่ดินด้านเกษตรกรรมที่เหมาะสม และชุมชนยังไม่มีแนวทางหรือทางเลือกในการใช้ที่ดินที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนได้ ประกอบกับปัญหาเรื่องราคายางพาราและปาล์มน้ำมันที่กระทบมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลกระทบด้านการแข่งขันในอนาคตที่คาดว่าจะเกิดหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการของชุมชนที่จะปรับตัวด้านเกษตรกรรม และความต้องการยุทธศาสตร์การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องจัดอบรมเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาเกษตรกรจังหวัด เกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เข้าใจถึงวิธีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ภายใต้การเข้าใจบริบทพื้นที่ผ่านกระบวนการด้านแผนที่และการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งเป็นรากฐานของการจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน และเพื่อการปรับตัวหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งยังเป็นแนวทางสำคัญในการปรับตัวตามนโยบาย Thailand 4.0

ดร.มุมตาส กล่าวว่า การเสื่อมโทรมของทรัพยากรที่ดินที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มาจากการไม่สามารถหรือขาดการจัดการที่เหมาะสม วงจรการเสื่อมโทรมของทรัพยากรที่ดินยังคงอยู่เป็นวัฏจักรและมีการขยายการเสื่อมโทรมมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนแปลงการจัดการทรัพยากรที่ดินเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน ควรมุ่งเน้นการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการมีส่วนร่วมและเพิ่มต้นทุนทางสังคม กุญแจสำคัญในการทำลายวงจรการเสื่อมโทรมของทรัพยากรที่ดินคือการให้ผู้ใช้ที่ดิน (Land User) มีบทบาทในด้านการตัดสินใจร่วมกับหน่วยงานหรือสถาบันที่เกี่ยวข้อง และมีส่วนต่อการรับรู้ข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ในการจัดการทรัพยากรที่ดิน ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันจัดเป็นงานที่ท้าทายและดำเนินการได้ยาก โดยประเด็นที่สำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการเป็นอันดับแรก คือ การจัดการทรัพยากรที่ดินในเขตชนบท ซึ่งจัดว่ายังอยู่ในสถานะเสี่ยงและด้อยโอกาส การส่งเสริมต้นทุนด้านสังคม (การศึกษา สถาบัน องค์กร และเครือข่ายด้านสังคม) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจ ให้อำนาจการตัดสินใจแก่บุคคลระดับล่าง ให้บทบาทความสำคัญกับผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้ที่ดิน กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในขณะเดียวกันมีความถูกต้องตามกระบวนการ สอดคล้องกับนโยบายและเป็นวิถีทางหรือแนวทางที่สามารถทำลายวงจรการเสื่อมโทรมของที่ดินได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม