นายปราโมทย์ สันติวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง เปิดเผยว่า "ด้วยน้อมสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจอย่างยาวนานตลอดรัชสมัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของปวงพสกนิกร โดยได้ทรงพระราชทานปรัชญาในการดำเนินชีวิต ไว้ให้กับคนไทยหลายประการ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ช่วยให้คนไทยทุกหมู่เหล่ามีความเป็นอยู่ที่ดี อย่างยั่งยืน ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของการดำเนินธุรกิจ (พ.ศ.2520-2560) กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง จึงมีความประสงค์จัดทำโครงการที่จะสนับสนุนให้คนไทยร่วมดำเนินชีวิตบนเส้นทางแห่งความดีงามตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้ร่วมกับ สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง และมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ จัดทำโครงการ "ทุนพอเพียง โดยกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง" เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้ศึกษาเรียนรู้และพัฒนาวิถีชีวิต โดยน้อมนำ "ศาสตร์พระราชา" ลงสู่การปฏิบัติ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพและความตั้งใจจริงให้ได้รับทุนสนับสนุนการเริ่มต้น หรือต่อยอดการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่การแบ่งปันความรู้ หรือภูมิปัญญาแก่ผู้อื่นต่อไป"
"โครงการฯ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการปลูกข้าวและการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่าน ได้ทรงปลูกฝังให้คนไทยรักและหวงแหนข้าวไทยให้ดำรงอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ที่ว่า "...ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปีประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อยๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก..."
ด้าน ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง และประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวถึงโครงการนี้ว่า "โครงการ "ทุนพอเพียง โดย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง" นี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่มีภาคเอกชนให้ความสำคัญและเล็งเห็นถึงความยั่งยืนในการดำเนินตาม "ศาสตร์พระราชา" และยังทำให้ประชาชนที่มีความสนใจและ
ตั้งใจจริง ในการนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาที่ดินของตนแต่ยังขาดการสนับสนุน ให้สามารถดำเนินตามรอยพ่อได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น"
"สำหรับรูปแบบของโครงการฯ จะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมมีความเข้าใจในหลักเกษตรทฤษฎีใหม่และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนได้ลงมือปฏิบัติในพื้นที่จริง ซึ่งจะทำให้เห็นตัวอย่างของการนำ "ศาสตร์พระราชา" ไปปรับใช้ในที่ดินของตนและในชีวิตประจำวัน โดย "ทุนพอเพียงฯ" ที่จะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1.ทุนความรู้ จากการจัดอบรมหลักสูตรพิเศษทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 60 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2.ทุนเครือข่าย หมายถึง ผู้ร่วมโครงการฯ ทั้ง 60 คน ซึ่งจะจัดตั้งเป็น "เครือข่ายทุนพอเพียง" โดยสมาชิกเครือข่ายฯ จะร่วมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์จากด้านการจัดการที่ดินของแต่ละคน ตลอดจนร่วมลงพื้นที่พัฒนาที่ดินตัวอย่าง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
และ
3.ทุนเงินสนับสนุน ซึ่งสถาบันฯ และมูลนิธิฯ จะดำเนินการก่อตั้งกองทุน "ทุนพอเพียง โดยกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง" เพื่อสนับสนุนทุนตามความเหมาะสมแก่สมาชิกเครือข่ายฯ ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่ตัวอย่าง จำนวน 3 ทุน สำหรับนำไปพัฒนาพื้นที่ของตนตามความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ โดยจะได้รับการหนุนเสริมความรู้และเทคนิควิธีการต่างๆ จากสมาชิกโครงการ และจากเครือข่ายของสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง เพื่อสร้างเครือข่ายทุนพอเพียงให้เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายขยายผลศาสตร์พระราชา" ดร.วิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2560 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุ๊ก มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และ เฟสบุ๊ก King Health Society หรือติดต่อ คุณเอื้อมพร โทร.085 821 3008 และ คุณเกวลี โทร. 085 143 6412