นายศาศวัต กล่าวต่อว่า " SQ มีความภูมิใจที่สามารถทำกำไรสุทธิ (รายไตรมาส) สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของบริษัทฯ ในไตรมาส 1 ปีนี้ และ มีอัตรากำไรขึ้นต้นสูงขึ้นเป็น 39% จากเดิม 28% ในไตรมาส 1 ปีก่อน และ มีอัตรากำไรสุทธิ (เน็ต มาร์จิ้น) ที่สูงขึ้นเป็น 22.20 % เพิ่มขึ้นกว่า 113% จาก 10.40 % ในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการประหยัดเชิงขนาด รวมถึงประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานรับเหมาทำเหมืองแร่มากกว่า 33 ปี
ขณะนี้ SQ มีปริมาณงานในมือที่รอรับรู้รายได้อีก 37,000 ล้านบาทซึ่งรวมถึงการที่บริษัทฯได้รับงานเหมืองดีบุกที่เหมืองเฮนดา ซึ่งตั้งอยู่ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ขณะนี้อยู่ในช่วงเตรียมงาน และคาดว่าจะดำเนินงานได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ตามกำหนดการที่ตั้งไว้"
นายศาศวัต กล่าวทิ้งท้ายว่า "บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการสร้างรายได้และผลกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯไม่หยุดที่จะประมูลงานใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ในช่วงเตรียมการประมูลโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท "
จากผลประกอบการที่ผ่านมาและปริมาณงานที่มั่นคงกว่า 37,572 ล้านบาท ทำให้นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ปรับราคาเป้าหมายเพื่มขึ้น โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่6.90 บาท ปรับขึ้นจาก 6.50 บาท สะท้อนการรับรู้รายได้ ลุ้นประมูลแม่เมาะ 9 ทางด้าน บล.เคจีไอ ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 7.00 บาท จากเดิม 6.00 บาท จากแบ็คล็อกล้นมือ ในขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ให้ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท เพิ่มขึ้นจาก 5.90 บาท
บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในไทยและภูมิภาค CLMVและเป็นบริษัทรับเหมาใหญ่เพียงรายเดียวที่มุ่งเน้นรับงานโครงการเหมืองแร่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นงานเฉพาะด้านที่มีอัตรากำไรค่อนข้างสูง มีงานต่อเนื่องในระยะยาว และมีคู่แข่งน้อยราย รวมทั้งบริษัทฯ มีทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องจักรที่มีความพร้อมในด้านการขุด-ขนงานเหมืองเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถชนะการประมูลโครงการต่างๆได้ตามเป้าหมาย