สำหรับประโยชน์ของโครงการพัฒนาคลองผันน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 ทำให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม กับการบริหารจัดการน้ำของไทยได้อย่างเป็นระบบ เนื่องจากระบบการระบายน้ำบริเวณลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำหลากปริมาณมากได้ การก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมที่ผ่านมาก็ไม่มีความแข็งแรงเพียงพอเห็นได้นำชัดเจนจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีโครงการที่เน้นการบริหารจัดการน้ำที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างบูรณาการ โดยใช้คลองผันน้ำเพื่อนำน้ำออกทะเลโดยตรง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาถึงข้อดี-ข้อเสีย ข้อจำกัด และผลกระทบต่างๆ อย่างรอบด้าน รวมถึงเสนอแนะรูปแบบการพัฒนาที่มีความเหมาะสมที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง
"ความร่วมมือการพัฒนาระบบชลประทานผ่านมาทั้งสองกระทรวงมีความร่วมมือระหว่างกันในหลายๆ โครงการ อาทิ การศึกษาทบทวนแผนแม่บทการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา การให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างประตูระบายน้ำกระมังและหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา และล่าสุดในปี 2560 – 2561 ได้เข้ามาช่วยในการศึกษาโครงการพัฒนาคลองผันน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 ซึ่งการเดินทางเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ได้ถือโอกาสขอบคุณทางกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และไจก้า อย่างเป็นทางการทั้งความร่วมมือทางวิชาการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจัดให้ศึกษาดูงานระบบชลประทานที่จังหวัดไซตามะ ถือเป็นรูปแบบโมเดลการสร้างถนนควบคู่กับทางระบายน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศญี่ปุ่นที่จะช่วยพัฒนาระบบระบบชลประทานของไทยต่อไปในอนาคตด้วย " พลอกฉัตรชัย กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้ กรมชลประทานได้ร่วมกับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ดำเนินการศึกษาโครงการคลองผันน้ำร่วมกับถนนวงแวนรอบที่ 3 เพิ่มเติมจากผลการศึกษาเดิมของไจก้า พร้อมทั้งได้ประชุมหารือกับกรมทางหลวง พิจารณากรอบความช่วยเหลือและขอบเขตการศึกษา เพื่อจัดทำข้อเสนอขอรับความช่วยเหลือจากไจก้า โดยไจก้าได้เสนอที่จะช่วยเหลือในด้านข้อมูลการสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมด้านวิชาการโครงการดังกล่าว ประกอบด้วยหน่วยงานจากกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทางหลวง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมเป็นคณะทำงานฯ เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับทีมสำรวจของไจก้า โดยจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ถึง กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มร่างแผนความเป็นไปได้ของโครงการในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.นี้