นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM ผู้นำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับสิทธิจากบริษัท ABP Corporation ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิแฟรนไชส์ร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ 'โอ บอง แปง' ในการดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV (ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) จากปัจจุบันที่ได้รับสิทธิในการดำเนินธุรกิจในไทยมาแล้วกว่า 20 ปี โดยการได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสิทธิแฟรนไชส์ในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่สามารถผลักดันให้แบรนด์ โอ บอง แปง เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคในประเทศไทยและสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบัน มีร้าน โอ บอง แปง เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วกว่า 70 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับการได้รับสิทธิการขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่ดำเนินการภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์ของกลุ่ม MM ได้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เริ่มศึกษาตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศที่อยู่ในกลุ่ม CLMV ซึ่งเบื้องต้นพบว่าตลาดมีกำลังซื้อสูงเนื่องจากในกลุ่มประเทศดังกล่าว มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีและมีผู้บริโภคทั้งชาวต่างชาติและคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการรับประทานเบเกอรี่และเครื่องดื่มจากร้านอินเตอร์แบรนด์เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่า MM จะสามารถสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุนขยายสาขาร้านโอ บอง แปง ในกลุ่ม CLMV เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างสูงสุด ซึ่งได้เปิดกว้างรูปแบบการลงทุน เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจชั้นนำ หรือเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีศักยภาพและความพร้อมในด้านประสบการณ์และการเงินในแต่ละประเทศ เพื่อรองรับแผนลงทุนขยายสาขาในแต่ละประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดและแผนลงทุนได้ภายในปีนี้
"การได้รับสิทธิขยายการลงทุนร้าน โอ บอง แปง ในกลุ่มประเทศ CLMV สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มของ MM ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าของสิทธิแฟรนไชส์ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารุกขยายตลาดในภูมิภาคนี้และสร้างแบรนด์โอ บอง แปง ให้เป็นที่รู้จักและติดปากผู้บริโภคใน CLMV ต่อไป" นายซาลฮานี กล่าว