นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือETE เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันปีก่อน จากการรับรู้รายได้ของมูลค่างานในมือที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งรายได้จากธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรม และธุรกิจบริการบริหารจัดการ รวมถึงการรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งทำให้บริษัทฯยังคงเป้ารายได้รวมในปีนี้เติบโตที่ระดับ 20-30% จากปี 2559 ที่มีรายได้รวม 1,412 ล้านบาท
นอกจากนั้นบริษัทฯยังตั้งเป้ารับรู้รายได้ราว 100 ล้านบาท จากธุรกิจจัดหา และจำหน่ายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย โดยเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งดำเนินการผ่าน บริษัท โกลว์ เทรดดิ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด หรือGTS ซึ่งเป็นบริษัทฯย่อย ในขณะเดียวกัน บริษัทฯได้ตั้งเป้าการยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 รวมทั้งสิ้น จำนวน 55เมกะวัตต์ (MW) โดยดำเนินการผ่านบริษัท อีทีอีเมเนจเมนท์ จำกัด และบริษัท อีทีจี เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีการจับฉลาก และประกาศผลภายในเดือนมิถุนายนนี้
"ในไตรมาสที่ 2 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการที่เราเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาสนับสนุน รวมถึงธุรกิจเทรดดิ้งซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ก็จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในปีนี้ ทำให้เรายังเชื่อว่าจะสามารถเดินหน้าทำรายได้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ส่วนโครงการโซล่าร์สหกรณ์ระยะที่ 2 บริษัทอยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการยื่นคำขอ หลังจากมีผลประกาศการจับสลากของสหกรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" นายไรวินท์กล่าว
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 421.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 5.38 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 354.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 306.83 ล้านบาท