นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ตามที่โรงไฟฟ้าในกลุ่มของ บี.กริม เพาเวอร์ ได้เปิดดำเนินการทางธุรกิจมาแล้วในระยะเวลาหนึ่ง จนมีกระแสเงินสดที่มั่นคงทั้งจากสัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำ ทางกลุ่มจึงเห็นสมควรแก่เวลาที่จะให้โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่เป็นเจ้าของกระแสเงินสดนั้น เดินหน้าระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการประกอบการเป็นของตนเองและเป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสมมากที่สุด ประกอบกับภาวะตลาด ตราสารหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเหมาะสม กลุ่มจึงได้เลือกให้บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 3 จำกัด บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จำกัด และบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จำกัด เป็นผู้ระดมทุนในครั้งนี้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งมีขนาดกำลังการผลิตที่ใกล้เคียงกัน ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมือนกัน สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ในระดับเดียวกัน รวมทั้งโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บจก.ทริสเรตติ้ง ในระดับ A- เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ครั้งนี้ โดยได้แต่งตั้งให้ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้"
นายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "การเสนอขายหุ้นกู้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง จากยอดจองกว่า 2.3 เท่า ซึ่งการที่กลุ่มผู้จัดจำหน่ายได้จัดโครงสร้างที่คำนึงถึงผู้ออกตราสารและผู้ลงทุน โดยจัดโครงสร้างในการออกหุ้นกู้พร้อมกัน 11 รุ่น มูลค่ารวมกัน 11,500 ล้านบาท มี บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 จำกัด เป็นผู้ออกตราสารหนี้ เพื่อเป็นการรวมกระแสเงินสดของทั้งสามแห่งเข้าด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อให้ตารางการชำระหนี้ของหุ้นกู้ในแต่ละรุ่นใกล้เคียงกับกระแสเงินสดของผู้ออกตราสารหนี้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้ออกตราสารหนี้บริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับสามารถกระจายหุ้นกู้ได้ครอบคลุมกลุ่มผู้ลงทุนได้ทุกกลุ่ม ทั้งผู้ลงทุนรายใหญ่ ผู้ลงทุนสถาบันที่มีเป้าหมายลงทุนระยะสั้น เช่น กองทุนรวม และผู้ลงทุนสถาบันที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว เช่น ประกันชีวิตและสหกรณ์ ซึ่งธนาคารมีความยินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้"
คุณภานุ โชติประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ Client Coverage 3 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ ธนาคารมีความมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 จำกัด โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างสำคัญของการสร้างทางเลือกใหม่ในการระดมทุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเห็นได้จากการตอบรับของนักลงทุน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 โรง ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม บี.กริม เพาเวอร์ ตลอดจนความสามารถและความทุ่มเทของผู้บริหาร บี.กริม เพาเวอร์ ที่สามารถสร้างความเข้าใจในลักษณะจำเพาะทางธุรกิจของกิจการโรงไฟฟ้า และทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว ตลอดจนประโยชน์จากโรงไฟฟ้า SPP ที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ที่หลากหลายให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และธนาคารไทยพาณิชย์มีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจและได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ ขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเคียงข้างเป็นพันธมิตรกับ บี.กริม เพาเวอร์ สู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป
อนึ่ง บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 ถือหุ้นโดยโรงไฟฟ้าของกลุ่ม บี.กริม เพาเวอร์ จำนวน 3 โรง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี จำนวน 1 โรง และโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง อีก 2 โรง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจำนวนรวมทั้งสิ้น 380.2 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้งรวม 90.0 ตันต่อชั่วโมง