นายวรวุฒิ กิตติอุดม ประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการสายการเงินบริษัท อาร์เค พลัส เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อาร์เค พลัส เอสเตท จำกัด เกิดจากการรวมกลุ่มของเพื่อนๆ นักธุรกิจที่เป็นคนรุ่นใหม่มีความชอบและทัศนคติที่เหมือนกัน คือ อยากจะสร้างคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่เน้นความทันสมัย เน้นภาพลักษณ์มาก่อนเรื่องตัวเลข ซึ่งหุ้นส่วนแต่ละคนต่างมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ไม่ว่าจะงานก่อสร้าง การเงิน การตลาด การขายและการประชาสัมพันธ์ จึงได้นำความชำนาญ ความได้เปรียบดังกล่าวมาสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการสร้างที่อยู่อาศัย จึงได้เกิดแนวคิดในการสร้างคอนโดมิเนียมแห่งแรกของบริษัท คือMAXXI Condo ( แมกซ์ซี่ คอนโด ) กับแนวคิดการออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ LIVE IT TO THE MAX
จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ MAXXI ที่เน้นความ MAX หมายถึงการจัดเต็มในทุกด้าน โดยทีม อาร์เค พลัส สรรสร้างโครงการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต ออกแบบโครงการสไตล์ Modern & Affordable Luxury มีเอกลักษณ์ เท่ โมเดิร์น แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในคอนเซปท์ CO HAPPY SPACE ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำสีม่วง Amethyst สดใสพร้อมระบบ Jet System สามารถว่ายน้ำในระยะทางไร้ขีดจำกัด เพิ่มความท้าทายในการออกกำลังกาย Fitness with Boxing corner , Co - kitchen space , Co - working space , Library corner , Play zone พิเศษที่สุดกับการจัดเตรียมระบบ ซึ่งปกติไม่มีในคอนโดระดับราคานี้ อาทิเช่น Digital Door lock , ระบบ Home automation with universal remote สั่งได้ด้วยปลายนิ้ว , Double security : CCTV , RFID Access (Easy Pass ไม่ต้องเปิดกระจกรถ) & Finger Scan ก่อนเข้า Residential area ด้าน Room Layoutสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงทุกตารางนิ้ว อาทิ ห้อง 26 ตารางเมตร มีระเบียงแบบ Double Skin ที่สามารถปรับแต่งเป็นห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่นได้ทั้ง indoor หรือ outdoor ก็ได้ หรือห้อง 1 Bed Plus 30 ตารางเมตร ที่มีห้องเอนกประสงค์เพิ่มอีกหนึ่งห้องที่สามารถปรับเป็นได้ทั้งห้องนอน หรือทำงาน ห้องแต่งตัว เพิ่มพื้นที่ให้ผู้พักอาศัยสามารถตกแต่งห้องได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ด้วยราคาที่คนรุ่นใหม่จับต้องได้
และเนื่องจากทำเลนี้ เป็นทำเลที่ยึดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ใช้เวลาเพียง 3 นาที สามารถเดินทางถึงสถานี ถือว่าเป็นสายที่สำคัญและเป็นกระดูกสันหลังของรถไฟฟ้า ต่อเดียวสามารถเข้าเมืองไปถึงสยาม ใจกลางกรุงเทพ ทั้งยังมีทำเลที่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , มหาวิทยาลัยศรีปทุม , โรงพยาบาลเปาโล , โรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน และแหล่งงานมากมาย อาทิ ธอส. , กรมป่าไม้ หรือแม้กระทั่งบริษัท RS สำนักงานใหญ่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มคนทำงาน อายุ 27 ปี ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ นักศึกษา ม.เกษตร , ม.ศรีปทุมฯ และใกล้เคียง รวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนที่เล็งเห็นศักยภาพในทำเลนี้ด้วย
โดยพื้นที่โครงการทั้งหมด 2-0-31 ไร่ เป็นโครงการ Low rise จำนวน 8 ชั้น รวม 249 ยูนิต ประกอบด้วยห้อง Studio ขนาด 22ตารางเมตร , 1 Bedroom ขนาด 26-30 ตารางเมตร และ Two Bedrooms ขนาด 34-37 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนกลางอาคาร Club house หรือ CO HAPPY SPACE แยกจากที่พักอาศัย จำนวน 2 ชั้น พร้อม Rooftop Garden และพื้นที่เล่นโยคะ โดยทิศหน้าอาคารหันในทิศดี ตามหลักฮวงจุ้ย ที่อยู่แล้วมีความก้าวหน้าทั้งหน้าที่การงานและการเงิน จอดรถได้ 79 คัน คิดเป็น 32 % ( ไม่ซ้อนคัน ) ราคาห้องเริ่มต้อนที่ 1.29 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการประมาณ 450 ล้าน และพิเศษสุดในวัน Pre-Sale จะมีการจับฉลาก ห้องโปรโมชั่น ขนาด 22 ตารางเมตร จำนวน 2 รางวัล ราคาเพียง 9.99 แสนบาท โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมลุ้นราคาห้องโปรโมชั่นกันได้ วันเสาร์ที่ 24 และวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2560 (จับฉลากวันละ 1 ห้อง)
"สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 นี้ แม้จะไม่หวือหวามากนัก ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาหนี้เสียรวมถึงปัญหาการปฎิเสธการอนุมัติเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารที่ค่อนข้างสูง แต่บริษัทฯได้ทำการศึกษาตลาดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด โดยยึดหลัก สร้างบ้านให้เหมือนกับเรามาอยู่อาศัยเอง ทำอย่างดีที่สุดจากใจ โดยจากยอดลงทะเบียนผู้สนใจที่ตอนนี้มีประมาณ 1,500 รายชื่อ ซึ่งเหนือความคาดหมายมาก บริษัทฯ จึงตั้งเป้าปิดการขายภายในสิ้นปี 2560 นี้ และมั่นใจว่าจะได้ยอดโอนตามเป้า โดยยึดหลักเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่หวือหวา และไม่ต้องเร็ว" นายวรวุฒิ กล่าว
นายวรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดิน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเจรจาอีกหนึ่งแปลง และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการใหม่อีกแปลงหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทฯ ต้องทำการศึกษาเพื่อหาที่ดินที่เหมาะสม และอยู่ในงบประมาณที่สามารถนำมาพัฒนาให้ลูกบ้านได้เต็ม MAX ราคาจับต้องได้จริง และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จตามเป้า ก็น่าจะเห็นเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่องอาจจะมี MAXXI 2 หรือ MAXXI Premium ให้เห็นเร็วๆนี้ก็เป็นได้
สำหรับภารกิจต่อจากนี้ไปในอีก 3-5 ปี เราคงจะพยายามพัฒนาโปรเจคใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและหลากหลาย อาจรวมไปถึงมีการผสมอสังหาริมทรัพย์แนวราบเข้ามาด้วย เพราะแนวราบจะได้เรื่อง Cash flow เข้ามาค่อนข้างเร็ว แต่ยังคงเน้นไปที่คอนโด รวมไปถึงตลาดต่างชาติ ที่บริษัทฯ มีคอนเนคชั่นอยู่ในระดับหนึ่ง ก็คิดว่าน่าจะได้เห็นอะไรใหม่อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อาร์เค พลัส เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่ม อาร์เค กรุ๊ป บริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จนเป็นที่ยอมรับมาแล้วกว่า 40โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว โฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม ในโซนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ด้วยความยึดมั่นในคุณภาพ ความซื่อสัตย์และวิสัยทัศน์ของทีมบริหาร จึงทำให้ อาร์เค กรุ๊ป อยู่คู่วงการอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 40 ปี