นางสาวชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พิจารณาถึงหลักเกณฑ์กฎระเบียบมาตรฐานอินทรีย์ (Thailand Organic ) เพื่อให้มีความเหมาะสมกับบริบทการผลิตของประเทศไทย และมอบหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี ดำเนินการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงหมูหลุมอินทรีย์ให้เป็นแปลงใหญ่หมูหลุมอินทรีย์ เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันและมีการพัฒนาต่อยอดในด้านต่าง ๆ เป็นธุรกิจภาคเกษตร ที่มีความมั่นคง และยั่งยืน โดยรัฐบาลได้สนับสนุนเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเป็นแหล่งทุนให้กับเกษตรกร รวมทั้งมอบหมายให้กรมปศุสัตว์พิจารณาเรื่องการจัดตั้ง Organic Feed Center เพื่อแก้ไขปัญหาวัตถุดิบในการผลิตเป็นอาหารสัตว์อินทรีย์ในอนาคต ตลอดจนเพื่อพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยต่อไป
สำหรับแนวทางแผนการทำงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงหมูหลุมอินทรีย์ ได้ยึดหลัก 4P ได้แก่ 1) Product ผลิตสินค้าที่ปลอดภัยจากฟาร์มถึงผู้บริโภค 2) Price แบ่งเป็น 3 ราคา ได้แก่ เขตชุมชน ในตัวเมือง และในกรุงเทพฯ 3) Place เปิดเขียงในฟาร์ม 4) Promotion แผนการขาย/การตลาด นอกจากนี้ยังได้นำเสนอปัญหา เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ได้แก่ 1) ปัญหากฎ/ระเบียบ ในการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ที่ควรปรับให้เหมาะสมกับประเทศไทย โดยเฉพาะกรณีพื้นที่กลางแจ้งสำหรับให้ปศุสัตว์ได้สัมผัสกับธรรมชาติ 2) ปัญหาวัตถุดิบเพื่อการผลิตอาหารอินทรีย์ สำหรับภาคปศุสัตว์ วัตถุดิบมีไม่เพียงพอและไม่สามารถผลิตเองได้ โดยเฉพาะกากถั่วเหลือง ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 3) โรงชำแหละมาตรฐาน สำหรับเป็นจุดรวบรวมผลผลิตของสมาชิก เพื่อชำแหละ คัดแยก แปรรูป เพื่อจำหน่าย