ดร. ทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ"TCJ" ผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องจักรกลหนักในงานก่อสร้าง ยานยนต์อุตสาหกรรม ทั้งผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าโลหะโดยเฉพาะเหล็กกล้าไร้สนิม (สแตนเลส) และยังเป็นผู้ให้บริการติดตั้งและตบแต่งด้วยสแตนเลส บนสถานีรถไฟฟ้า ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นอย่างสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 มีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมที่มีการฟื้นตัว ประกอบกับ บริษัทฯ มีธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มการให้เช่าเครื่องจักรกลหนักประเภทเครนยก กลุ่มการขายเครื่องจักรกลหนัก กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะและกลุ่มท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงมั่นใจภาพรวมในปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,245.38 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อย มีกำไร 27.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 ที่มีกำไร 1.98 ล้านบาท โดยรายได้รวมของบริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อยจำนวน 459.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 1 ปี 2559 ที่มีรายได้รวม 281.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น63.4% ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการขายราว 313.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.1% ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะ ทั้งจากการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม และการจำหน่ายแผ่นเหล็ก รวมถึงการจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากการรับเหมาติดตั้งราว 26.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 146.3% จากผลงานที่ติดตั้งเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1 ของโครงการรับเหมาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
นายทัสชน ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในธุรกิจที่หลายหลาก โดยสามารถแบ่งได้ตามอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืองานอสังหาริมทรัพย์ "TCJ" ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่งานฐานล่างสุดจนถึงงานตบแต่ง นอกจากนี้ TCJ ยังได้รับงานตบแต่งสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเป็นงานที่มีมูลค่าสูง โดยถือว่าเป็นผลจากการที่บริษัทฯ สั่งสมประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนาน ทำให้ "TCJ" ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ประกอบและติดตั้งโลหะภัณฑ์ (Metal Fabricator) ที่ให้บริการครบวงจร และไม่เพียงความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับงานในทุกขนาด ทุกโครงการ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการวางแผนสั่งซื้อเครื่องจักรกลหนักเพิ่มในประเภทที่เหมาะสม เพื่อรองรับโครงการในอนาคต ต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจเดิม ตามแผนที่ได้ระดมทุนไป
ดร. ทรงวุฒิ กล่าวเสริมว่า เมื่อช่วงปลาย พ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10 บาท พร้อมทั้งได้รับวอร์แรนต์จำนวน 2 หน่วยฟรี โดยใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 2 หรือ TCJ-W2 ได้เข้าทำการซื้อขายวันที่ 13 มิ.ย. 2560 เป็นวันแรก และพบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น และบรรยากาศการซื้อขายในชั่วโมงเทรดเป็นไปอย่างคึกคัก ปริมาณการซื้อขายหนาแน่น โดย TCJ-W2 เปิดตลาดที่ 2.16 บาท/หน่วย ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 3.06 บาท/หน่วย และปิดตลาดที่ระดับดังกล่าว ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 130.47 ล้านบาท
ทั้งนี้ TCJ -W2 มีอัตราใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ : 1 หุ้น โดยมีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 3 ปี ในราคาการใช้สิทธิที่ 10.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 2560 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 5มิ.ย. 2563
ดร. ทรงวุฒิ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ได้เงินจากการเพิ่มทุนราวเกือบ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันฐานะการเงินมีสภาพที่คล่องขึ้น เพียงพอสำหรับรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคตและผลักดันให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ โดยบริษัทฯ จะนำเงินไปซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจโดยรวม และจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของภาครัฐ