น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยหนุนจากช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้คาดว่ามีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงวดไตรมาสที่ 2/2560 และยูโรกรุ๊ปอนุมัติการเบิกจ่ายเงินกู้งวดใหม่ให้กับกรีซในวงเงิน 8.5 พันล้านยูโร หรือประมาณ 9.47 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดชำระที่จะถึงนี้
รวมทั้งการจัดงาน "Thailand's Big Strategic Move" โดยตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 22 – 23 มิ.ย.นี้ เพื่อเสนอแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบัน และมุมมองของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกโดยได้แรงหนุนจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐช่วยผลักดัน GDP ทั้งปีให้เติบโต 3.4-3.5% แม้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันมาจากราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาดหลังลิเบียและไนจีเรียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น และ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจาก FED จะเริ่มปรับลดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลาร์สหรัฐในปีนี้
อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 21 มิ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม วันที่ 23 มิ.ย. อียูและสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนมิ.ย. ส่วนญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย. และในวันที่ 26 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า และการจับฉลาก Solar Farm สหกรณ์ 119 เมกะวัตต์ และราชการ 100 เมกะวัตต์
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีแรงหนุนจากการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนมิ.ย อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนยังคงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 - 1,600 จุด
ทั้งนี้ แนะนำการลงทุนแบบ Selective Buy ในกลุ่มรับเหมา แนะนำ CK และ SYNTEC ที่ได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ และกลุ่มพลังงานทดแทน ที่จะมีการจับฉลาก Solar farm หน่วยราชการเฟส 2 ในวันที่ 26 มิ.ย. แนะนำ ETE ซึ่งสอบผ่านคุณสมบัติรอบแรกในการเข้าร่วมในโครงการนี้ 40 เมกะวัตต์ คาดกำไรปี 60 ราว 61 ล้านบาทเติบโต 97%YoY โดยยังไม่ได้รวมโซลาร์สหกรณ์ เฟส2
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า Fed ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยตามคาด พร้อมระบุชัดเจนถึงแผนการปรับลดงบดุลที่คาดว่าจะเริ่มได้ในครึ่งปีหลัง โดยมีเงื่อนไขว่าสภาพเศรษฐกิจต้องเอื้ออำนวย ซึ่งความไม่แน่นอนของการใช้นโยบายกระตุ้นจากรัฐบาลทรัมป์ สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดประเมินว่าจุดเริ่มต้นกระบวนการปรับลดงบดุลอาจล่าช้าออกไป และการลดลงอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปนี้ อาจไม่ทันการกับปริมาณตราสารหนี้ที่ Fed ถือครองไว้เป็นจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน แม้ว่าความเสี่ยงกำลังกลับไปอยู่ทางยุโรปที่มีการก่อวินาศกรรมและความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น แต่สินทรัพย์เสี่ยงและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มจะเป็นบวกจากเงินทุนไหลเข้าต่อไป เนื่องจาก BOJ แสดงความกังวลต่อการขยายตัวญี่ปุ่นที่ยังไม่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน จึงคงมาตรการกระตุ้นตลาดผ่าน QE
ทั้งนี้ ตลาดทองคำได้ซึมซับปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว และการดิ่งลงมากว่า 50 ดอลลาร์ โดยไม่มีปัจจัยลบมากดดันต่อ ทำให้มีโอกาสจะกลับตัวชั่วคราวจากการ cover short จึงแนะนำให้พอร์ตเล่นสั้นเก็งกำไรฝั่ง long เพื่อเล่นรอบรีบาวน์สั้น ๆ ส่วนพอร์ตเล่นรอบควรดัก short เมื่อราคาดีดตัวขึ้นแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ถือสถานะ long ควรลดพอร์ต เนื่องจากทิศทางราคาเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว โดยมีกรอบแนวรับและแนวต้านอยู่ที่ 1,230 – 1,260ดอลลาร์