ประกาศชื่อผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันทำอาหาร ในโอกาสที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการครบรอบ 5 ปี

พฤหัส ๒๒ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๑:๐๔
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้จัดกิจกรรมพิเศษในโอกาสที่โรงแรมครบรอบ 5 ปี ภายใต้โครงการ "5 ปีแห่งความสำเร็จ 5 เดือนของการแบ่งปัน" เพื่อแบ่งปันความสำเร็จสู่สังคมในมิติต่าง ๆ เป็นเวลา 5 เดือนติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม 2560 ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือการแข่งขันทำอาหารเพื่อชิงรางวัลเป็นทุนเดินทางไปศึกษาดูงานที่โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม (Hotel Okura Amsterdam) เป็นเวลา 9 วัน

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้เปิดรับสมัครนิสิต นักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันทำอาหาร มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาการโรงแรม งานครัวและ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากหลายสถาบัน ให้ความสนใจยื่นใบสมัครเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก โดยผู้สมัครได้โพสต์คลิป วีดีโอ แสดงการทำอาหารในเฟสบุ๊คของตนเอง และส่งคลิป วีดีโอ นั้นมาให้คณะกรรมการคัดเลือก คณะกรรมการในรอบแรกนี้เป็นผู้บริหารของโรงแรมจำนวน 6 ท่าน ได้ร่วมกันคัดเลือกผู้สมัครที่แสดงความสามารถในการประกอบอาหารได้ถูกใจคณะกรรมการที่สุด 10 ท่าน มาสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับเชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ (Antony Scholtmeyer) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef ) ประจำโรงแรมฯ และคัดผู้สมัครเพียง 5 ท่าน ให้ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายและมีโอกาสฝึกอบรมในครัวของห้องอาหารญี่ปุ่น ยามาซาโตะ กับ เชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัว (Master Chef) ประจำห้องอาหารยามาซาโตะ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ก่อนที่ผู้สมัครแข่งขันจะแสดงฝีมือการทำอาหารให้คณะกรรมการชิมในคืนตัดสินวันที่ 9 มิถุนายน 2560

วันแรกของการฝึกอบรบ ในครัวของห้องอาหารญี่ปุ่น ยามาซาโตะ ผู้เข้าแข่งขันเข้ารอบสุดท้าย ทั้ง 5 ท่านที่ ได้จับฉลากตัวอักษร 'O K U R A' ซึ่งถือเป็นตัวอักษรประจำตัวตลอดการแข่งขัน

- ตัวอักษร O (โอ) เป็นตัวอักษรประจำตัวของ นางสาวสามิณี สุขจันทร์

- ตัวอักษร K (เค) เป็นตัวอักษรประจำตัวของ นางสาวอรทัย กิตติสิทโธ

- ตัวอักษร U (ยู) เป็นตัวอักษรประจำตัวของ นางสาวพิชชากร รามบุตร

- ตัวอักษร R (ฮาร์) เป็นตัวอักษรประจำตัวของ นางสาวพิมพ์ลภัส ตันติศรีสุข

- ตัวอักษร A (เอ) เป็นตัวอักษรประจำตัวของ นายธาดา เอกประทุมชัย

การฝึกอบรมในครัว ยามาซาโตะ เชฟ ฮางิวาระ ได้แบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 5 แผนก ได้แก่ แผนกซูชิและซาชิมิ แผนกทอด แผนกต้มและตุ๋น แผนกย่าง และแผนกเทปันยากิ โดยผู้เข้าแข่งขันทุกท่านล้วนได้รับการอบรมอย่างเข้มข้นแผนกละ 3 วันกับพ่อครัวมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญจนครบทุกแผนก นอกจากนั้น ในแต่ละวัน เชฟ ฮางิวาระ ก็ได้นัดหมายกับผู้เข้าแข่งขันเป็นรายบุคคล เพื่อสอนการปรุงอาหารญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด

ตลอดระยะเวลาฝึกอบรม 3 อาทิตย์ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทึจ กรุงเทพฯ ได้เรียนเชิญ หัวหน้าแผนกต่าง ๆในโรงแรมฯ สื่อมวลชน และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 41 ท่าน มาร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อร่วมคัดเลือกและให้คะแนนผู้เข้าแข่งขัน โดยการเยี่ยมชมการฝึกอบรมในครัว ยามาซาโตะ และพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขัน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนจากความมุ่งมั่นตั้งใจ การให้ความร่วมมือ เป็นต้น

สองวันสุดท้ายของการอบรม ผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีโอกาสฝึกฝีมือ ทบทวนบทเรียน และเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงฝีมือปรุงอาหารให้คณะกรรมการชิมในคืนวันตัดสิน โดยโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้รับเกียรติจากสื่อมวลชน และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 12 ท่าน มาร่วมเป็นคณะกรรมการชิมอาหารที่ผู้แข่งขันทำโดยใช้ปลากระพงแดงญี่ปุ่นมาปรุงเป็นอาหารตามโจทย์ 4 ชนิด ได้แก่ ซูชิ ซาชิมิ อาหารต้มและตุ๋น และ อาหารจากความคิดสร้างสรรค์ของตนเองโดยมีหลักเกณฑ์การให้คะแนนจากรูปลักษณ (หน้าตา) และรสชาติของอาหาร

ในคืนตัดสิน ผู้เข้าแข่งขันทุกคนได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านการฝึกฝนการทำอาหารญี่ปุ่นจากเชฟ ฮางิวาระ ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่มีคะแนนรวมตลอดการแข่งขันสูงสุดได้แก่ นางสาวพิชชากร รามบุตร จาก วิทยาลัยดุสิตธานีได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศทำมาจากถ้วยสาเกไม้ ตั้งอยู่บนฐานที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักจะใช้อ้างอิงถึงความเป็นที่หนึ่ง หรือ 'Ichi Ban' (อิจิบัง) จากเชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัว ประจำห้องอาหารยามาซาโตะ นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลใหญ่เป็นทุนไปศึกษาดูงาน 9 วันที่โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม (Hotel Okura Amsterdam) รางวัลรวมตั๋วเครื่องบิน ไป กลับ กรุงเทพฯ - อัมสเตอร์ดัม พร้อมที่พักที่ โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม 8 คืน มื้ออาหารกลางวันสุดพิเศษที่ห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) 1 มื้อ มื้ออาหารค่ำที่ห้องอาหารซีเอลเบลอ (Ciel Bleu) 1 มื้อ โปรแกรมท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม 1 วัน การจัดทำวีซ่า ประกันการเดินทาง เงินรางวัล 10,000 บาท และโปรแกรมการเรียนรู้การทำอาหารในครัวกับเชฟโอะโนะ ค็อกไมเยอร์ (Chef Onno Kokmeijer) เชฟชื่อดังจากห้องอาหารซีเอลเบลอ ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ได้รับดาวเกียรติยศมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวและเป็นเชฟที่ได้รับรางวัลเป็นตำแหน่ง เอส วี เอช มีสเทอเชฟ (SVH Meesterchef) หรือ มาสเตอร์ เชฟ (Master Chef) ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของบุคคลากรในสายงานพ่อครัวจากสถาบันชื่อดังในวงการธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของประเทศเนเธอร์แลนด์ คือ Stichting Vakbekwaamheid Horeca รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 100,000 บาท ส่วนผู้แข่งขันท่านอื่น ๆ ได้รับบัตรกำนัลเข้าพักที่ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ 1คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านเป็นรางวัล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันและการให้คะแนน ติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์ โทร. 02 687 9000 หรือ[email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ