นายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทพ. ได้หารือกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด ต่อกรณีรัฐบาลได้มอบหมายให้ กทพ. นำร่องใช้กองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือ TFF มาลงทุนในการก่อสร้างทางด่วนพิเศษสาย พระราม 3- ดาวคะนอง และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอนN 2 เส้นถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์)
สำหรับความคืบหน้าของแผนการก่อสร้างทั้งสองเส้นทาง ขณะนี้ในส่วนเส้นทางแรก ได้มีการศึกษาออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลและก่อสร้างได้ในต้นปี 2561 และแล้วเสร็จภายในปี 2565 ซึ่งเชื่อว่าจะมีปริมาณรถใช้งานเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อวัน และจะเป็นโอกาสให้สามารถซ่อมบำรุงสะพานแขวนพระราม 9 ซึ่งผ่านการใช้งานมากว่า 30 ปีได้อย่างสะดวกอีกด้วย
ส่วนเส้นทาง N2 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ ทางขึ้นอุโมงค์ แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงทางด่วนมอร์เตอร์เวย์นั้น จะมีการศึกษาทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง เนื่องจากมีการศึกษาไว้นานแล้ว รวมทั้ง
ศึกษาแบบเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ตั้งเป้าว่าจะต้องเสนอขออนุมัติ ครม. ภายในปีงบประมาณนี้ และก่อสร้างได้ในปี 2561 แล้วเสร็จเปิดใช้ภายในปี 2564โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้ทางเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นคันต่อวัน
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า กทพ.เป็นหน่วยงานของรัฐ การที่รัฐบาลตัดสินใจให้นำร่องใช้กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม ซึ่ง กทพ.พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวโดยขณะนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิดทั้งระดับผลตอบแทนของกองทุนจะอยู่ในระดับใดที่เหมาะสมที่สุด คือไม่ทำให้กทพ.มีต้นทุนทางการเงินที่สูงเกินไป และยังสามารถดึงดูดใจนักลงทุนได้ด้วย
สำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้ง กทพ.และสวัสดิการพนักงานนั้น กระทรวงการคลังยังรับปากว่า จะดูแล กทพ.เป็นพิเศษ ทั้งด้านผลประกอบการและสวัสดิการพนักงาน เพราะ กทพ.ถือเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นดี
"ขณะนี้กทพ.ได้เร่งดำเนินการทำแผนงานก่อสร้างทางด่วนทั้งสองเส้นทาง เพื่อให้สอดรับกับแผนกองทุน TFF ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่าจะดูแล กทพ. เพื่อให้การทำงานราบรื่น จึงเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้" นายณรงค์ กล่าว