เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่ม กำหนดเวลาการแสดงก็เริ่มขึ้น ผู้ชมเต็มสตูดิโอก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างสมใจเมื่อสมาชิกวงทั้งหมดปรากฏตัวขึ้นบนเวที จากนั้นซาวด์เอฟเฟคช่วงอินโทร เสียงเพลง Light Goes Out เพลงแรกของอัลบั้ม Human Bloom ก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณเปิดการแสดง
บนเวทีซึ่งประกอบด้วย ยูสึเกะ ทาเคดะ (เบส), โยจิโระ โนดะ (ร้องนำ, กีตาร์, เปียโน), อากิระ คุวาฮาระ (กีตาร์) และมือกลองเฉพาะกิจสองคน พวกเขาต่างแสดงพลังบนเวทีได้อย่างน่าทึ่ง หลังจาก Light Goes Out จบลง ก็ถึงคิวของเพลง Yumetourou (Dream Lantern) และ Zenzenzense ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดอย่างกึกก้องจากผู้ชม รวมไปถึงเพลง AADAAKOODAA ที่ โนดะทั้งร้องและแร็พได้อย่างสนุกสนาน
สำหรับเพลงที่ RADWIMPS เลือกมาเล่นในคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นเพลงที่ถูกเลือกมาจากเพลงในอัลบั้มภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Your Name, เพลงจากอัลบั้มใหม่ Human Bloom และเพลงยอดนิยมจากอัลบั้มชุดก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น Okoshite (05410-n), Iron Bible, Tremolo,Toaruharunohi (One Spring Day), Bou Ningen (Stick Figure), Mitsuha noTheme (Mitsuha's Theme), Sparkle, DADA, Oshakashama, Masu และ Kimi to Hitsuji to ao ซึ่งเป็นเพลงที่ โนดะ ให้แฟนๆ ลากเสียงร้องยาวๆ แข่งกับเขา มีหรือแฟนเพลงชาวไทยจะทำให้ผิดหวังต่างพากันร้องลากเสียงยาวไม่น้อยหน้าแฟนเพลงชาติอื่นเลย เรียกว่าทั้งร้อง เต้น ทั้งโบกมือไปมาแถมกระโดดกันอย่างสนุกสนานเต็มที่
RADWIMPS ไม่เพียงแสดงสดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่พวกเขายังรู้จักเอ็นเตอร์เทนแฟนเพลงเป็นอย่างดี ในช่วงพักพูดคุยกับแฟนเพลง ทั้ง คุวาฮาระ และ ทาเคดะ ต่างทำให้ผู้ชมชาวไทยประทับใจด้วยการพูดภาษาไทยเป็นประโยคยาวเหยียด โดยเฉพาะ ทาเคดะ ซึ่งใช้ศัพท์ยากๆ สำหรับชาวต่างชาติ "ดีใจมากครับที่ได้มาเจอแฟนเพลงชาวไทย ... วันนี้ขอบคุณทุกคนที่เสียสละมาเจอกัน ...ทุกคนสนุกมั้ยครับ ขอบคุณมากครับ ...ขอขอบคุณเป็นพิเศษกับมือกลองเฉพาะกิจ ขอเสียงปรบมือด้วยครับ" หลังจากจบประโยคสุดยาวแฟนๆ ก็ปรบมือกันลั่นพร้อมส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่น บ้างก็ชูหัวแม่โป้งสองมือชื่นชมในความพยายามพูดไทยของทาเคดะ ที่ฟังเข้าใจซะด้วย โนดะ เลยเอ่ยปากขอให้ผู้ชมให้คะแนนการพูดภาษาไทยครั้งนี้ แน่นอนพวกเราให้เต็ม 100! ไปเลย ส่วนคุวาฮาระเองก็ทำซึ้งด้วยคำพูดนี้ "พวกเราจะจำคอนเสิร์ตครั้งนี้ครับ" แล้วโนดะก็เล่าเบื้องหลังให้ฟังว่า ขณะที่เขานั่งจิบกาแฟอย่างสบาย สองคนนี้ต้องท่องภาษาไทยอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับจะไปสอบ ก็เลยเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนเพลงกันไป แม้ โนดะ จะไม่พูดภาษาไทย แต่ประโยคที่เขาเล่าให้ฟังก็ทำเอาแฟนๆปลื้มปริ่มน้ำตาคลอ "ตอนแรกทัวร์คอนเสิร์ตนี้ไม่มีเมืองไทยอยู่ในลิสต์ แต่ผู้จัดบอกกับเราว่า มีแฟนเพลงที่เมืองไทยรออยู่เยอะเลยนะ พวกเราเลยตัดสินใจมา" ได้ใจกันไปเต็มๆ
เพลงฮิตจากอัลบั้มชุดที่ 4 Yushinron เป็นเพลงที่พวกเขาเลือกเป็นเพลงปิดท้ายการแสดงก่อนช่วงอังกอร์ และหลังจากไฟบนเวทีดับ แฟนเพลงก็พากันตะโกนให้อังกอร์ ไม่นานนัก โนดะ ก็กลับขึ้นเวทีอีกครั้ง พร้อมถือกล้องมาขอเก็บภาพประทับใจของแฟนเพลงชาวไทยทุกคนกลับไปด้วย ก่อนเขาจะนั่งลงหน้าเปียโน แล้วเพลงซึ้งๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านมังงะ (การ์ตูน) อย่าง Shuukan Shounen Jump (Weekly Shounen Jump) ก็ดังขึ้น ทำเอาแฟนๆ ที่ยืนตั้งใจฟังกันอย่างเงียบกริบต่างรู้สึกอินประทับใจไปตามๆกัน
เมื่อเพลงจบสมาชิกวงที่เหลือก็กลับขึ้นเวทีกันอีกครั้ง Nandemonaiya เพลงดังจากอนิเมชั่น Your Name ก็ถูกเลือกให้เป็นเพลงที่ 2 ของช่วงอังกอร์ ซึ่ง โนดะ บอกว่านี่เป็นเพลงที่ติดอันดับ 1 ของ ไอทูนส์ (itunes) ชาร์ตในไทย และต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยในเรื่องนั้น ระหว่างแสดงเขาทิ้งเนื้อร้องบางช่วงให้คนช่วยกันร้อง แล้วแฟนๆ ก็ไม่ได้ทำให้ศิลปินผิดหวัง เสียงร้องของแฟนๆ ดังกึกก้องฮอลล์ เรียกเสียงขอบคุณและเสียงชมจากโนดะให้ได้ปลื้มกันไป
แล้วเพลงฮิตอีกหนึ่งเพลง Futurigoto ก็ถูกเลือกมาเป็นเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ต แต่ในท้ายเพลง โนดะ เผลอทำอุปกรณ์หล่นเสียงออกไมค์ดังลั่น เขาจึงหยอกแฟนๆ ด้วยการบอกว่า เนื่องจากทำเสียงดังหนวกหู เลยขอแถมให้อีกเพลง และ เพลง Iindesuka? ก็เลยกลายเป็นเพลงปิดท้ายในการแสดงคืนนั้น พร้อมยังหยอดคำหวานว่า พวกเขาจะกลับมาเมืองไทยอีก... งานนี้ทำให้แฟนๆ ฟินหลายเด้งเพราะได้ชมทั้งโชว์ดีๆ คุณภาพแน่น 2 ชั่วโมง เต็มอิ่มกับ 21 เพลง ได้ทึ่งกับเสียงร้องใสกิ๊กไม่ต่างจากซีดี ส่วนแสง สี เสียง ยังจัดเต็มคุ้มค่าเกินราคาบัตร แถมยังมีคำมั่นสัญญาทิ้งท้าย ก็ไม่แปลกใจที่ใครๆ จะตกหลุมรัก RADWIMPS คอนเสิร์ตที่พูดได้เต็มปากว่าน่าเสียดายถ้าใครไม่ได้ดู...