อีสท์ เวสท์ ซีด สนับสนุนรัฐบาลไทย ในการผลักดันเพื่อเพิ่มอันดับในการจัดอันดับเมล็ดพันธุ์พืชทั่วโลก

พุธ ๒๘ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๖:๕๘
รัฐบาลไทย นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้นำในภาคส่วนรัฐบาลอื่นๆ ได้ร่วมหารือระดับสูงกับกลุ่มพันธมิตรนักธุรกิจยุโรป-อาเซียน Europe – ASEAN Business Alliance (EABA) ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากบริษัทต่าง ๆ ของยุโรป ซึ่ง มร. เบิร์ท แวน เดอร์ เฟลท์ซ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด ตัวแทนจากกลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืชและการเกษตร ได้แสดงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนรัฐบาลไทยให้พัฒนาอันดับอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่อยู่ในลำดับที่ 32 จากทั้งหมด 62 ประเทศเศรษฐกิจทั่วโลก

ผลจากการศึกษาของธนาคารโลกในปี พ.ศ.2560 ในเรื่อง "การเปิดทางและสนับสนุนธุรกิจภาคเกษตร" หรือ EBA ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของแต่ละประเทศที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจภาคการเกษตร ในแง่ของการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ไทยมีอันดับเป็นรองประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนอย่าง ฟิลิปปินส์ (ที่อยู่ในอันดับที่ 11) และมีอันดับใกล้เคียงกับพม่า (อันดับที่ 34) และเวียดนาม (อันดับที่ 42) ในขณะที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ถูกจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งของโลก และถือเป็นประเทศที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของโลก ตามด้วยประเทศสเปน และเดนมาร์ก

"เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลเอื้ออำนวยต่อธุรกิจการเกษตรในประเทศไทยตามที่การศึกษา EBA ของธนาคารโลกได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาสายพันธุ์พืช การขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ และการควบคุมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์" มร. แวน เดอร์ เฟลท์ซ หนึ่งในประธานของพันธกิจนี้กล่าว นอกจากนี้ นาย แวน เดอร์ เฟลท์ซ ยังได้กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ มีดังต่อไปนี้

การคุ้มครองสิทธิของนักพัฒนาสายพันธุ์ให้มั่นใจในความปลอดภัยของนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้น (การคุ้มครองพันธุ์พืช)การเข้าถึงเชื้อพันธุกรรมพืช (germplasm) และการแบ่งปันใช้ร่วมกันประสิทธิภาพในการใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ใหม่ ขั้นตอนการทดสอบสายพันธุ์ และกระบวนการประกาศ ที่มีระบบและประสิทธิภาพมากขึ้น การควบคุมและรับรองคุณภาพเมล็ดพันธุ์ที่ดีขึ้น (การรับรองโดยบุคคลที่สาม หรือการรับรองตนเอง)การทำฉลากเมล็ดพันธุ์ เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าให้แก่เกษตรกร

ซึ่ง นาย แวน เดอร์ เฟลท์ซ ได้กล่าวไว้ในการหารือร่วมเรื่อง พันธกิจทางธุรกิจของประเทศไทย (Thailand Business Mission) ที่จัดโดยกลุ่มพันธมิตรนักธุรกิจยุโรป-อาเซียน Europe-ASEAN Business Alliance (EABA) เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้นำระดับสูงในภาคเอกชนในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการกำกับดูแล รวมถึงการริเริ่มนโยบายต่างๆ

"ในฐานะประธานร่วมของกลุ่มพันธมิตรนักธุรกิจยุโรป-อาเซียน (EABA) ผมรู้สึกมีตื่นเต้นและมีกำลังใจที่ได้เห็นความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมงานดังกล่าวจากผู้แทนจากบริษัทต่าง ๆ ของยุโรปจากหลากหลายอุตสาหกรรม นี่คือพันธกิจทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา และสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจร่วมมือกัน และการให้ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของบริษัทยุโรปต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงความมุ่งมั่นของเราต่อนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างบรรยากาศทางบวกของธุรกิจในประเทศไทย และเราจึงหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เป็นก้าวแรกในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทสัญชาติยุโรปต่างๆ ด้วย" นาย แวน เดอร์ เฟลท์ซ กล่าว

อีสท์ เวสท์ ซีด ในประเทศไทย

อีสท์ เวสท์ ซีด ในประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นในปี พ. ศ. 2526 ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 ได้ก่อตั้งสำนักงานใหญ่เพื่อวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในชื่อ "ไซมอน กรูท รีเสิร์ช เซ็นเตอร์" และปี ในปี พ.ศ. 2549 ประเทศไทยได้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ดูแลกลุ่มบริษัททั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบัน อีสท์ เวสท์ ซีด มีพนักงานในสำนักงานใหญ่ และอีสท์ เวสท์ ซีด ประเทศไทย รวมกันกว่า 700 คน

"บริษัทของเรามุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรรายย่อยของไทยผ่านเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพและความรู้ด้านการเพาะปลูกพืชผัก อีสท์ เวสท์ ซีด ทุ่มเท มุ่งมั่น ในการวิจัยและพัฒนา กระบวนการผลิต และการจำหน่ายของเมล็ดพันธุ์ผักลูกผสม (Hybid) บริษัทของเราเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ศรแดง" และได้รับการยอมรับและยกย่องจากเกษตรกรไทยให้เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ทำให้เราเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง โดยมีการเติบโตของธุรกิจในตัวเลขถึง 2 หลักต่อปี" มร. แวน เดอร์ เฟลท์ซ กล่าว

บริษัทได้มุ่งพัฒนาธุรกิจผ่านความสามารถในด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเกษตรกรท้องถิ่น ประมาณ 60% ของพริกที่จำหน่ายในตลาดสดของไทย คือเมล็ดพันธุ์ลูกผสม ซุปเปอร์ฮอท และประมาณ 85% ของข้าวโพดข้าวเหนียวที่ขายในท้องตลาดคือเมล็ดพันธุ์จาก อีสท์ เวสท์ ซีด นอกจากนั้น ยังมีพืชสำคัญอื่นๆ ได้แก่ แตงกวา มะระ ดอกดาวเรือง มะเขือเทศฟักทอง และถั่วลันเตา อีกด้วย

อีสท์ เวสท์ ซีด ประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางธุรกิจเป็น 17% ของธุรกิจอีสท์ เวสท์ ซีดทั่วโลก และเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก ทั้งนี้ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไทย อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคล เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการค้นคว้า ปรับปรุง และพัฒนาพันธุ์พืชของไทยต่อไป.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น