ร่วมจัดพิธีมอบรางวัล และพิธีปิดโครงการเยาวชนกับการอนุรักษ์พลังงาน ปั้นเยาวชนคนรุ่นใหม่จากโรงเรียน 89 แห่งร่วมโครงการ ฯ สร้างเครือข่ายการอนุรักษ์พลังงาน และลด CO2 ได้ปีละ 5 แสนตัน ช่วยชาติประหยัดไฟฟ้าลงได้ร้อยละ 5.12 คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 2,853,036 บาทต่อปี เพื่อสอดรับนโยบายลดการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงของประเทศ
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีปิดและมอบรางวัลโครงการความร่วมมือด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR ) ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใน "โครงการเยาวชนกับการอนุรักษ์พลังงาน" เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 โดยมี นายกรศิษฎ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และนายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ร่วมมอบรางวัลให้กับโรงเรียนผู้ชนะเลิศระดับภาคและระดับประเทศ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้ดำเนินโครงการ
"โครงการเยาวชนกับการอนุรักษ์พลังงาน" มีระยะเวลาดำเนินโครงการปี 2558 – 2560 โดย คัดเลือกโรงเรียนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 89 โรงเรียน เพื่อจัดค่ายให้ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า มอบทุนการศึกษา และจัดประกวดผลงานอนุรักษ์พลังงาน ทั้งนี้ เพื่อสร้างตัวแทนเยาวชนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และครู เป็นเครือข่ายด้านการอนุรักษ์พลังงานขยายผลไปยังครอบครัว โรงเรียน และชุมชน
ถือเป็นการพัฒนากิจกรรมด้าน CSR แบบบูรณาการร่วมกันของทั้ง 3 การไฟฟ้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือร่วมใจขององค์กรด้านพลังงานไฟฟ้าในการดำเนินงาน ซึ่งจะก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีของคนในวงการพลังงานไฟฟ้าในการปลูกจิตสำนึกการประหยัดพลังงานให้แก่เยาวชน และสร้างเยาวชนให้เป็นวิทยากรตัวคูณของภาคพลังงานไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าและปลอดภัย
ในการดำเนินการโครงการ การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ได้ทำการคัดเลือกผลงานการอนุรักษ์พลังงานของโรงเรียนที่สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและประชาสัมพันธ์สร้างเครือข่ายด้านการอนุรักษ์พลังงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยได้ผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ได้แก่ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล กรุงเทพมหานคร รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงเรียนกระทุ่มแบน "วิเศษสมุทคุณ" จ.สมุทรสาคร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนส่วนบุญโยปถัมป์ จ.ลำพูน และรางวัลชมเชย ได้แก่ โรงเรียนท่าแซะรัชดาภิเษก จ.ชุมพร และโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล จ.สกลนคร
ผลจากความร่วมมือและการดำเนินโครงการ ฯ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ฯ ทั้งสิ้น 89 แห่งทั่วประเทศมีผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ และเครือข่ายรวมกว่า 8,870 คน แยกเป็นนักเรียน 4,980 คน ครูและผู้ปกครอง 3,890 คน เป็นผลให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ฯ ทั้งหมด ประหยัดค่าไฟฟ้าเฉพาะที่โรงเรียนโดยเฉลี่ย 11,890 หน่วยต่อเดือน คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 499,380 บาทต่อปี
นอกจากนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ฯ ยังช่วยให้ประเทศชาติประหยัดค่าไฟฟ้าได้ร้อยละ 5.12 คิดเป็น 79.251 หน่วยต่อเดือน สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 2,853,036 บาทต่อปี ทั้งยังสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้เดือนละ 44,459 ตัน หรือปีละ 533,508 ตัน สอดคล้องกับนโยบายพลังงานของประเทศในการลดการนำเข้าเชื้อเพลิงเพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า และยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการร่วมมือกันในการให้ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าและคืนประโยชน์สู่สังคม พร้อมขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพียงกันทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนต่อไป