?? นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า การออมเป็นนโยบายที่ภาครัฐให้การสนับสนุนมาโดยตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนรู้จักการออมเงินมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนวัยทำงานที่กำลังก่อร่างสร้างตัวเพื่อสร้างความมั่นคงให้มีหลักประกันในการดำรงชีวิตในอนาคต
??กอช. เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระหรืออยู่นอกระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐหรือกองทุนเอกชนที่มีนายจ้างจ่ายสมทบ ซึ่งอายุระหว่าง 15-60 ปี ได้มีโอกาสออมเงินเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองเมื่อยามชราภาพ โดยมีรัฐช่วยออมในการจ่ายเงินสมทบให้ส่วนหนึ่ง (สมาชิกที่มีช่วงอายุ 15-30 ปี สมทบสูงสุด 600 บาท/ปี, ช่วงอายุ 30-50 ปี สมทบสูงสุด 960 บาท/ปี และสำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป สมทบสูงสุด 1,200 บาท/ปี) และเมื่อออมครบกำหนดหรือเมื่อสมาชิกมีอายุครบ 60 ปี ทาง กอช. จะจ่ายเงินคืนแก่สมาชิก ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี คือสมาชิกมีเงินสะสมในจำนวนที่มากพอ จะได้รับเป็นเงินบำนาญตลอดชีวิต และกรณีที่สองหากสมาชิกสะสมเงินจำนวนไม่มากพอ จะได้รับเป็นเงินดำรงชีพ คือ กอช. จะจ่ายคืนให้สมาชิกเดือนละ 600 บาท จนกว่าเงินในบัญชีสมาชิกจะหมด
??การสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตในอนาคตจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างกันตั้งแต่วันนี้ จึงควรมีการวางแผนการออมให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นเมื่อยามชรา ตั้งเป้าหมายและตั้งระยะเวลาการออมอย่างชัดเจน เพราะหากเวลาในการเก็บออมยิ่งเหลือน้อยจะเป็นภาระหนักสำหรับการออมมากขึ้นเท่านั้น
??? สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนการออมแห่งชาติได้ที่ กอช. สายด่วนเงินออม 02-017-0789 ในวันและเวลาทำการ และติดต่อสมัครสมาชิกได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และที่สถาบันการเงินชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ... "กอช. ออมสบาย ได้บำนาญ" www.nsf.or.th