สคร. 12 สงขลา เตือนระวังโรคไข้กาฬหลังแอ่น หลังปีนี้ภาคใต้ตอนล่างพบผู้ป่วยแล้ว 4 ราย เสียชีวิต 2 ราย

พฤหัส ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๕๑
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เตือนประชาชนระวังป่วยเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น หลังพบครึ่งปีแรกภาคใต้ตอนล่างมีผู้ป่วยแล้ว 4 ราย เสียชีวิต 2 ราย แนะเลี่ยงอยู่ที่แออัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรรับวัคซีนป้องกันโรค

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า ข้อมูลจากกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 20 มิถุนายน 2560 พบว่าพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นแล้วจำนวน 4 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย จึงฝากเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังป้องกันโรคดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่แออัด ผู้คนหนาแน่น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นต้องเข้าไป ควรสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันตนเองจากการสัมผัสกับละอองน้ำมูก น้ำลาย จากผู้อื่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หรือปรุงอาหาร รักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ

สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น ประเทศไทยยังไม่ได้แนะนำให้บุคคลทั่วไปฉีดวัคซีน บุคคลที่แนะนำให้ไปฉัดวัคซีนคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ถูกตัดม้าม หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง เพราะคนเหล่านี้เมื่อติดเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นจะมีโอกาสเป็นแบบติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดชนิดที่รุนแรงได้มากกว่าคนปกติทั่วไป ผู้ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศที่มีโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่น เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไข้กาฬหลังแอ่นเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อได้โดยการสัมผัสโดยตรงจากละอองฝอย น้ำมูก น้ำลายและเสมหะผู้ป่วยและผู้ที่เป็นพาหะ อาการของโรค คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะมาก อาเจียน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจุดแดงทั่วตัว ต่อมาเปลี่ยนเป็นจุดสีคล้ำจนกลายเป็นสะเก็ดสีดำ ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้จะมีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองอย่างรุนแรง ซึ่งการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง ทำให้มีอาการสำคัญที่เรียกว่า "คอแข็ง" และในรายที่มีอาการรุนแรง คือการอักเสบลุกลามลงมาตามไขสันหลังก็จะมีอาการตัวเกร็งหลังแอ่น บางรายมีอาการรุนแรงช็อกถึงตายได้ในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ ดังนั้นหาก มีไข้สูง ปวดศีรษะมาก อาเจียน มีรอยผื่นเลือดออกใต้ผิวหนัง หรือสงสัยว่าสัมผัสกับผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๐๐ ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๒:๐๐ กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๑:๒๐ แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๑:๐๐ ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๑:๐๗ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๑:๓๐ EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๑:๓๓ ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๑:๐๙ ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๑:๐๗ DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๑:๓๑ โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก