นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือWHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ครั้งที่ 1 ประจำปี 2560 ได้มีมติให้รองรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (กองทุนรวม WHAPF) เข้ารวมกับ กองทรัสต์ WHART ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งและความมั่นคง ให้กับผู้ถือหน่วยมากขึ้น เนื่องจากการรวมกองเข้าด้วยกัน จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าของทรัพย์สินเพิ่มขึ้น มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้น และเป็นกองทรัสต์ที่มีขนาดทรัพย์สินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาดพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมด 8.807 แสนตารางเมตร
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทันทีหลังจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART และกองทุนรวม WHAPF อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับอัตราการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกับหน่วยทรัสต์ (Swap Ratio) ในครั้งนี้จะใช้อัตรา 1 หน่วยลงทุนของกองทุนรวม WHAPF ต่อ 1.0562 หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ WHART และคาดว่าจะสามารถดำเนินการรวมกองทุนรวม WHAPF และกองทรัสต์ WHARTแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2560
" ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART เชื่อว่าการแปลงสภาพกองทุนรวม WHAPF เข้ากับ กองทรัสต์WHART ในครั้งนี้จะส่งผลบวกกับผู้ถือหน่วยทั้ง 2 กองอย่างแน่นอน เพราะนอกจากมูลค่าทรัพย์สินที่มีขนาดเพิ่มขึ้นสูงถึง 2.7 หมื่นล้านบาทแล้ว ยังมีจำนวนผู้เช่าและพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้นอันเป็นการกระจายความเสี่ยง ทั้งในรูปแบบของที่ตั้งคลังสินค้า กลุ่มลูกค้า และรูปแบบการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สิน อีกทั้งมองว่าเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องของกองทรัสต์ในตลาดฯ" นายปิยพงศ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือWHAREM กล่าวเพิ่มว่า การแปลงสภาพกองทุนรวม WHAPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ WHART จะทำให้กองทรัสต์สามารถกู้ยืมได้เพิ่มเติม เนื่องจากเดิมกองทุนรวม WHAPF มีข้อจำกัดในการกู้ยืมได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ในขณะที่กองทรัสต์ WHART สามารถกู้ได้ร้อยละ 35 ของมูลค่าสินทรัพย์รวม การดำเนินการตามแผนแปลงสภาพดังกล่าวทำให้กองทรัสต์ WHART สามารถบริหารจัดการลงทุนโดยใช้หนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากมีการจัดอันดับเรตติ้งความสารถในการกู้ยืมเงินจะเพิ่มขึ้นถึง 60%
สำหรับกระบวนการแปลงสภาพ ผู้จัดการกองทรัสต์ WHART ได้ส่งหนังสือถึง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บริษัทจัดการ) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวม WHAPF เพื่อแสดงความประสงค์ที่จะให้กองทรัสต์ WHART ลงทุนในทรัพย์สินของกองทุนรวม WHAPF โดยจะรับโอนทรัพย์สินและภาระของ กองทุนรวม WHAPF และชำระค่าตอบแทนการรับโอนทรัพย์สินและภาระดังกล่าวเป็นหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ WHART
นอกจากนี้ ภายหลังแปลงสภาพกองทุนรวม WHAPF เข้ากับกองทรัสต์ WHART แล้วเสร็จ ทางกองทรัสต์WHART จะดำเนินการซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติม จำนวน 4 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 3,090 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการWHA Mega Logistics Center (ชลหารพิจิตร กม. 3) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ,โครงการ WHA Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม. 19) (อาคาร C และอาคาร M) ตั้งอยู่ที่ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ, โครงการ WHA Mega Logistics (ลำลูกกา) ตั้งอยู่ที่ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และโครงการ Omada Aerospace Factory (ระยอง) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยใช้เงินทุนจากการกู้ยืม และเงินประกันการเช่าและการบริการที่ได้รับจากกองทุนรวม WHAPF และ WHA GROUP บางส่วน