นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. อยู่ระหว่างการปรับองค์กรสู่การเป็น กปภ. 4.0ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาช่วยพัฒนาการให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ อาทิ การดำเนินงาน One Stop Service การยื่นคำร้องขอใช้น้ำประปาผ่านเว็บไซต์ ระบบการแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาและการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน ฯลฯ ควบคู่กับการหาพันธมิตรที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนชำระค่าน้ำประปาของ กปภ. เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการมากที่สุด ล่าสุด กปภ. ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ขยายช่องทางรับชำระค่าน้ำประปาผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ทางแอปพลิเคชั่น "K Plus" และจุดรับชำระของธนาคารที่มีสัญลักษณ์ K-Agent โดยมีค่าธรรมเนียมการบริการไม่เกิน 10 บาท ต่อ 1 รายการ สำหรับยอดชำระไม่เกิน 49,000 บาท ต่อใบแจ้งค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่ระบุในใบแจ้งค่าน้ำประปาและไม่มียอดค้างชำระ ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ โดยการสแกนบาร์โค้ดบนใบแจ้งค่าน้ำประปาผ่านแอปฯ และเลือกวิธีการชำระที่ต้องการ ทั้งผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารหรือตัดจากบัตรเดบิต/เครดิต
นอกจากนี้ กปภ. ยังมีช่องทางชำระค่าน้ำประปาผ่านตัวแทนอื่น ๆ เช่น ร้านค้าที่มีเครื่องหมายเคาน์เตอร์เซอร์วิส, 7-Eleven, ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ CenPay เช่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์มาร์เก็ต โซนโรบินสันในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Pay@Post ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ, Just Pay ที่สำนักงานทีโอที, mPAY STATION ที่ศูนย์บริการเอไอเอส และ ร้านเทเลวิซ, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส, ทรูมันนี่ พาร์ทเนอร์, ตู้บริการอัตโนมัติทรูมันนี่ คีออส ที่ร้านทรูชอป และ ทรูมูฟชอป หรือทางแอปพลิเคชั่น ทรู มันนี่ วอลเล็ท เอ็มเพย์ แอร์เพย์ อีซี่บิล เคาน์เตอร์เซอร์วิสเพย์ รวมทั้งผ่านเครื่อง ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ตลอดจนเคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ และสามารถหักผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร 14 แห่งทุกสาขาทั่วประเทศ