เซนไฮเซอร์ปรับทิศทางสู่โมเดลธุรกิจแบบทางตรง
เซนไฮเซอร์ กรุ๊ป บริหารจัดการธุรกิจโดยทายาทรุ่นที่ 3 ได้แก่ แดเนียล เซนไฮเซอร์ และ ดร. อันเดรอัส เซนไฮเซอร์ ที่สร้างผลประกอบการทั่วโลกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ถึง 658.4 ล้านยูโร กำไรก่อนภาษีของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 หรือคิดเป็นมูลค่า 34.9 ล้านยูโร เทียบกับระยะเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา ผลประกอบการส่วนผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2558 ผลลัพธ์เชิงบวกนี้เป็นผลของโมเดลธุรกิจแบบทางตรงที่ เซนไฮเซอร์ ได้ปรับใช้กับฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์เมื่อสองปีที่ผ่านมา การยกระดับโมเดลจากแบบดั้งเดิมสู่ระบบการกระจายสินค้าแบบทางตรงที่ทำในประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นจากความต้องการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และลดระยะเวลาการวางผลิตภัณฑ์ขายให้สั้นลง
การลงทุนในตลาดประเทศไทย
จากที่ตลาดประเทศไทยเป็นตลาดกำลังเติบโตในระดับภูมิภาคของแบรนด์ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เซนไฮเซอร์ ลงทุนในส่วนช่องทางการขายในประเทศไทย จนวันนี้ เซนไฮเซอร์ ก้าวสู่การเป็นสินค้าอิเล็คทรอนิคส์รายใหญ่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเกี่ยวกับเสียง และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ของร้านผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย และกำลังดำเนินการในการขยายจำนวนผู้แทนจำหน่าย ได้แก่ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรด้านการขายภายในประเทศ เช่น การจัดงาน "เซนไฮเซอร์ เดย์" ซึ่งเป็นกิจกรรมระยะยาวเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ เน้นย้ำไปที่การเข้ามามีส่วนร่วมของลูกค้าที่มุ่งเน้นกลุ่มหูฟัง เซนไฮเซอร์ เช่น หูฟังกลุ่มออดิโอไฟล์ และกลุ่มเกมมิ่ง
การเติบโตของดิจิตอลในประเทศไทยนั้น มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มคอนซูมเมอร์ รวมถึงตลาดสมาร์ทโฟนด้วย ในช่วงขาขึ้นของกระแส อี-คอมเมิร์ซ เซนไฮเซอร์ได้ขยายปริมาณของจำนวนผู้แทนจำหน่ายในโลกออนไลน์ โดยการจัดตั้งชอปอย่างเป็นทางการใน ลาซาด้า (Lazada) ตลาดออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถหาซื้อหูฟังแบบต่างๆ ของเซนไฮเซอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านบริการนี้ และในเร็วๆนี้ ที่ชอปเซนไฮเซอร์ ออนไลน์แห่งนี้ จะเพิ่มสินค้าจำพวก ไมโครโฟน เพื่อรองรับลูกค้าที่สนใจในกลุ่มสินค้าดังกล่าว เช่น นักดนตรี และช่างกล้องบันทึกภาพ
นอกเหนือจากการเพิ่มจำนวนจุดวางขาย เซนไฮเซอร์ ยังริเริ่มให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเสียงแบบยั่งยืนผ่านการจัดกิจกรรม "เซนไฮเซอร์ ซาวด์ ฟอรั่ม" เป็นกิจกกรรมตอกย้ำความพยายามของการเป็นผู้นำในด้านเสียงและความมุ่งมั่นในระดับภูมิภาคของแบรนด์ ผ่านการสร้างกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืน แพลตฟอร์มของ เซนไฮเซอร์ ซาวด์ ฟอรั่ม คือการให้ข้อมูลความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรน หรือข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับเสียง ในหัวข้อต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้า และสื่อมวลชน เพื่อให้พวกเขาได้ก้าวทันความเป็นไปในแวดวงของอุตสาหกรรม และตลาดเสียง ส่วนประเทศไทยนั้นได้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวไปแล้วถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือน เมษายน 2559 และล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่มุ่งเน้นในเรื่องของอุปกรณ์เกมมิ่ง
อนาคตของโลกแห่งเสียง
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มคอนซูมเมอร์ ในประเทศไทย ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งนอกเหนือจาก "อนาคตของโลกแห่งเสียง" ที่เป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯแล้ว เซนไฮเซอร์ได้เพิ่มงบประมาณลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำหรับเซนไฮเซอร์ทั่วโลก อีกร้อยละ 16 คิดเป็นมูลค่า 54.5 ล้านยูโรใน ปี พ.ศ. 2559 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ค่าใช้จ่ายส่วนการวิจัยและพัฒนาคิดเป็นร้อยละ 8.3 ของผลประกอบการทั่วโลกในปี พ.ศ. 2559
งานเปิดตัวหูฟังที่ดีที่สุดในโลก เซนไฮเซอร์ รุ่น HE1 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นงานที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจัดขึ้นเพื่อต่อยอดความเป็นผู้นำในการปฏิวัติเทคโนโลยีของเสียง กลยุทธ์ของโครงการจุดประกายที่ทำภายใต้การวิจัยและพัฒนานี้ ได้แก่ AMBEO. 3D audio (แอมบิโอ เทคโนโลยีเสียง 3 มิติ) รูปแบบเสียงที่จะเป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนตัวสำคัญของนวัตกรรมเสียงแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียง ผลิตเสียง หรือทำซ้ำเสียง แอมบิโอ เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาอันหลากหลายของทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ รวมถึงกระบวนการทำงาน ปัจจุบันเซนไฮเซอร์ ได้มีการผลิตสินค้าในเครื่องหมายการค้า AMBEO. สู่ตลาดบ้างแล้ว และในเร็วๆ ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์เสียง 3 มิติ จะส่งผลิตภัณฑ์AMBEO SMART HEADSET สู่ตลาดให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้ความเป็นเลิศแบบ เซนไฮเซอร์ ยังมี ไมโครโฟนชนิดไร้สาย ดิจิตอล 6000 และหูฟังแบบออดิโอไฟล์ HD 800 S และ IE 800 ไปจนถึง อุปกรณ์โซลูชั่นสำหรับการประชุม TeamConnect Wireless portable ทีมคอนเนค พกพาได้ แบบไร้สาย ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานในประเทศไทย
"จากความแตกต่าง ของการดำเนินธุรกิจรูปแบบครอบครัวนานกว่า 7 ทศวรรษ ในการผลิตอุปกรณ์ ออกแบบ และความชำนาญการต่างๆ เกี่ยวกับเสียง ที่สร้างความมั่นใจได้ว่าเราให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างที่สุด เราภาคภูมิใจในตำนานวิศวกรรม รวมถึงจิตวิญญาณของนวัตกรรมในแบบเยอรมันที่มีในแบรนด์ของเรา ที่ทำให้เราเป็นผู้สร้างอนาคตของโลกแห่งเสียง"
ดร. อันเดรอัส เซนไฮเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม เซนไฮเซอร์ กล่าว
การใช้งานสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลุ่มคอนซูมเมอร์ ที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จากรายได้ต่อคนที่เพิ่มขึ้น และราคาสมาร์ทโฟนที่ต่ำลง ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้เอง เทคโนโลยี บลูทูธ (Bluetooth) ยังคงเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม ปริมาณคนไทยที่พกพาหูฟังแบบไร้สายเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จากที่เซนไฮเซอร์ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หูฟังแบบไร้สายเพิ่มเข้าสู่พอร์ตของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ทำให้เมื่อต้นปี พ.ศ. 2560 ตัวเลขการขายของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า เมื่อกันกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
การลงทุนในส่วนการตลาด และนวัตกรรมของเซนไฮเซอร์ ได้ประสบความสำเร็จในประเทศไทย "ลูกค้าชาวไทยเป็นกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวสูง และมีความหลากหลายอย่างมาก เราเห็นโอกาสอยู่เสมอสำหรับเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา" ดร. อันเดรอัส เซนไฮเซอร์ กล่าวเสริม