นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นจะถูกกดดันจากความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีที่ปะทุขึ้นใหม่ หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกครั้งในวันศุกร์ที่ผ่านมา และสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำไปแสดงแสนยานุภาพกดดันแต่น่าจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ดังนั้น สหประชาชาติ รวมทั้งประเทศจีน รัสเซีย และญี่ปุ่น จะต้องตัดสินใจว่าจะออกมาตรการแทรกแซงเพิ่มขึ้นอย่างไร
ด้านสหรัฐฯ ยังมีปัจจัยกดดันจากการที่พรรครีพับลิกันยังไม่สามารถนำ พ.ร.บ. สุขภาพ ที่จะมาแทน Obamacare ผ่านวุฒิสภาได้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการที่ดีจากสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น น่าจะช่วยพยุงตลาดไว้ได้บ้าง ด้านราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังเป็นบวกโดยรวมแม้มีความกังวลเกี่ยวกับน้ำท่วมในภาคอีสาน กระทรวงการคลังยังคงมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยว่าปีนี้จะเติบโตถึง 3.6% และ Moody's มีมุมมองธนาคารไทยมีเสถียรภาพ โดยที่มีธุรกิจดีขึ้น เงินทุน และเงินทุนสำรองแข็งแกร่ง
แม้จะมีปัจจัยบวกหลายปัจจัย แต่ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกลับลดลงจากกรณีเกาหลีเหนือ ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นจะเดินหน้ายากในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ มองกรอบ SET Index สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,572-1,591 จุด จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังการลงทุน และเลือกลงทุนในหุ้น Defensive เช่น ธนาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล หรือโรงไฟฟ้า
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ BCH ของ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ราคาเป้าหมายปี 60 อยู่ที่ 16.80 บาท เนื่องจากบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ขณะที่การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงนี้จะเป็นอีกปัจจัยหนุนต่ออุปสงค์บริการทางการแพทย์ อีกทั้ง ยังมีอีกปัจจัยที่สำคัญจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา เราคาดว่า BCH จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักเนื่องจากบริษัทมีจำนวนผู้ประกันตน ณ ไตรมาส 1/60 สูงถึง 781,000 ราย
"เราคาดโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัลจะแสดงการเติบโตที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หนุนโดยผลจากฤดูกาล รวมถึงช่วงรอมฎอนที่ผ่านไปแล้ว (27 พ.ค. - 25 มิ.ย.) ส่งผลให้จำนวนคนไข้ชาวตะวันออกกลางน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ปัจจุบัน BCH มีโรงพยาบาลทั้งหมด 11 แห่ง และมีอีก 4 โครงการโรงพยาบาลใหม่ หนึ่งในนั้นคือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล (เวียงจันทน์) ที่ลาว ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 63 นับว่าเป็นการเปิดโรงพยาบาลแห่งแรกของบริษัทในต่างประเทศ และเราคาดการณ์กำไรสุทธิ BCH จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 21.2% ในปี 60 และ 17.9% ในปี 61" นายวรุตม์ กล่าว
ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ BCH ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BCH มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 14.80 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ BCH ยังมีความแข็งแกร่งที่มากพอ โดยสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายหลักที่ 14.80 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 15.70 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 16.70 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ BCH มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 14 บาท มีแนวต้านที่ 14.40, 14.50, และ 14.70 บาท และแนวรับที่ 14.20, 14.10, และ 13.90 บาท