เกษตรฯ ร่วมกับ ศปมผ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมเจ้าท่า แถลงมาตรการคุมเข้มเรือประมงต่างชาติภายใต้มาตรการ PSMA

จันทร์ ๓๑ กรกฎาคม ๒๐๑๗ ๑๘:๒๒
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง แถลงข่าวร่วมกับ นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า พลเรือโท ประยุธ ภู่เทียน ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องมาตรการคุมเข้มเรือประมงต่างชาติภายใต้มาตรการ PSMA และการยึดเรือประมงต่างชาติที่ทำประมง IUU ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เปิดเผยว่า จากสภาพปัญหาการลดลงของทรัพยากรประมงที่เกิดขึ้นจนนานาประเทศกลัวว่าจะก่อให้เกิดการขาดแคลนอาหารทะเลในการบริโภค สาเหตุหลักประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดการลดลงของทรัพยากรอย่างน่ากลัวคือการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือที่เรียกว่าการประมง IUU บทบาทของประเทศไทยภายใต้ความตกลงว่าด้วยมาตรการรัฐเจ้าของท่า (Port State Measure Agreement - PSMA) ซึ่งเป็นความตกลงระหว่างประเทศฉบับแรกของโลกที่มุ่งเน้นกำจัดการทำประมง IUU ซึ่งมีผลผูกพันเป็นกฎหมายระหว่างประเทศอย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2559

มาตรการของรัฐเจ้าของท่า คือมาตรการการตรวจสอบการทำประมง IUU เมื่อเรือเข้าเทียบท่าโดยภายใต้มาตรการดังกล่าว รัฐเจ้าของท่าต้องกำหนดท่าเรือที่จะให้เรือต่างชาติเข้าเทียบท่า เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยเรือต่างชาติต้องขออนุญาตรัฐเจ้าของท่าก่อนที่จะนำเรือเข้าเทียบท่า และต้องแจ้งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลทะเบียนเรือ อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ และสัตว์น้ำในห้องเก็บสัตว์น้ำ แก่เจ้าหน้าที่ โดยรัฐเจ้าของท่าต้องปฏิเสธการขอเทียบท่า ตรวจสอบเรือที่เกี่ยวข้องกับการทำประมง IUU และมีมาตรการที่จำเป็นต่อการจัดการเรือเหล่านี้ ดังนั้น ประเทศไทยในฐานะภาคีสมาชิกที่ได้เริ่มมีการดำเนินการตามพันธกรณีที่ได้ลงนามไว้แล้วและภายใต้พระราชกำหนดการประมง 2558 ซึ่งตามความตกลงฯ ดังกล่าว รัฐสมาชิกต้องกำหนดท่าเทียบเรือประมงต่างชาติที่ให้เทียบท่าได้ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่ทั้งสิ้น 27 ท่า เพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างใกล้ชิด ดำเนินการขึ้นตรวจสอบเรือประมงที่นำสัตว์น้ำมาขึ้นท่าในประเทศไทย มีการประสานงานกับประเทศต่างๆ เพื่อตรวจความถูกต้องของเอกสาร ตลอดจนการเข้าร่วมกับนานาประเทศและองค์การบริหารการประมงในภูมิภาคเพื่อติดตามเรือประมงที่ต้องสงสัยว่าจะมีการทำการประมง IUU

ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายปี 2559 ประเทศไทยได้มีการยึดเรือประมงจำนวน 7 ลำ ที่ขอเข้ามาเข้าเทียบท่าเพื่อซ่อมแซม เรือที่จังหวัดภูเก็ต โดยกลุ่มเรือดังกล่าวได้มีการแอบอ้างว่ามีสัญชาติโบลิเวีย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปที่ประเทศโปลิเวีย ตามมาตรการ PSMA แล้วปรากฏว่าไม่เป็นความจริง และจากการขึ้นตรวจสอบเรือประมงพบว่ามีพฤติกรรมที่เป็น IUU และหลายลำเป็นเรือที่คาดว่าจะอยู่ในรายชื่อที่ IOTC ประกาศขึ้นเป็นเรือ IUU ไว้แล้ว แต่เนื่องจากขณะนั้นพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ไม่สามารถดำเนินการกับเรือประมงดังกล่าวได้เนื่องจากไม่ได้นำสัตว์น้ำขึ้นท่า จึงต้องใช้อำนาจของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการ และอีก 2 ลำที่ได้แจ้งออกจากท่าไปก่อนที่จะมีการตรวจสอบ ประเทศไทยได้มีการแจ้งเตือนประเทศต่างในภูมิภาคและองค์การบริหารจัดการประมงในภูมิภาคแล้ว

"ประเทศไทยในฐานะภาคสมาชิกของสังคมโลกจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งในบทบาทของ "รัฐเจ้าของท่า" เพื่อให้นานาประเทศมั่นใจได้ว่าสัตว์น้ำที่นำขึ้นมาบริโภค หรือ ผลิตจากประเทศไทยได้รับการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดว่าไม่ได้มาจากการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศที่มีพื้นที่ทำการประมงที่จะอนุญาตให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมง ว่าประเทศไทยในบทบาทของ "รัฐเจ้าของธง" จะสามารถที่จะควบคุมดูแลเรือประมงที่ออกทำการประมงนอกน่านน้ำของไทยให้เป็นไปตามเงื่อนไข หรือข้อตกลงที่ให้ไว้แก่กัน ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกองเรือประมงนอกน่านน้ำของไทย อันจะส่งผลให้กองเรือประมงนอกน่านน้ำของไทยได้รับการยอมรับให้เข้าไปทำการประมงในน่านน้ำประเทศอื่นหรือน่านน้ำสากลได้อย่างมั่นใจ" พลเอกฉัตรชัย กล่าว

ด้านนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เรือประมงสัญชาติจิบูติ ได้ยื่นขอเข้าเทียบท่าเรือประมง ณ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นการแจ้งยื่นล่วงหน้าตามมาตรการ PSMA โดยแจ้งว่าเรือได้รับใบอนุญาตทำการประมงจากรัฐปุนท์แลนด์ สหพันธ์รัฐโซมาเลีย และเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้เข้าเทียบท่าเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม2560 แต่ยังไม่สามารถที่จะอนุญาตให้นำสัตว์น้ำขึ้นจากเรือประมง เนื่องจากยังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่าไม่ได้มาจากการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้แจ้งให้ตัวแทนนำเอกสารมายื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 7พฤษภาคม 2560 และออกหนังสือเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ซึ่งตัวแทนบริษัทได้ขอขยายเวลานำเอกสารมายื่นเพิ่มเติม และได้นำเอกสารมายื่นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ประกอบด้วย

1) รัฐธรรมนูญของสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย

2) รัฐธรรมนูญของรัฐปุนท์แลนด์แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย

3) กฎหมายการประมงของสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย

4) กฎหมายการประมงของรัฐปุนท์แลนด์แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย

กรมประมง และคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้ ศปมผ. ได้พิจารณาแล้วว่าเอกสารดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันความถูกต้องของใบอนุญาตทำการประมง และไม่ปรากฎหลักฐานที่แสดงว่าสัตว์น้ำไม่ได้มาจากการทำการประมง IUU จึงได้ขยายเวลาให้ตัวแทนนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ซึ่งตัวแทนไม่ได้นำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมตามช่วงเวลาดังกล่าว

จากการตรวจสอบหลักฐานที่ตัวแทนนำมายื่น ประกอบกับการตรวจสอบไปยังสาธารณรัฐโซมาเลียซึ่งเป็นรัฐชายฝั่งปรากฎว่าการทำการประมงของเรือประมงลำดังกล่าวฝ่าฝืนกฎหมายประมงของสาธารณรัฐโซมาเลีย ดังนี้

1) ฝ่าฝืนมาตรา 3 ซึ่งกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองชายฝั่งสำหรับชาวประมง ซึ่งเรือประมงต้องทำการประมงนอกเขต 24 ไมล์ทะเล

2) ฝ่าฝืนมาตรา 12 ซึ่งกำหนดให้การทำการประมงในน่านน้ำของโซมาเลียโดยเรือประมงต่างชาติ ต้องได้รับใบอนุญาตทำการประมงจากรัฐบาลกลาง

3) ฝ่าฝืนมาตรา 33 ซึ่งกำหนดห้ามใช้เครื่องมือประมงทำการประมงอวนลากทำการประมง ในน่านน้ำของสาธารณรัฐโซมาเลีย

และนอกจากนี้จากปริมาณสัตว์น้ำที่ขอนำเข้ามีทั้งสิ้น 448 ตัน ซึ่งมีปริมาณมากเกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงที่ออกโดยรัฐปุนท์แลนด์แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย (270 ตัน)

ในขณะเดียวกันประเทศไทยได้รับแจ้งว่าสาธารณรัฐจิบูติ ได้ถอนสัญชาติของเรือประมงลำดังกล่าวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 ทำให้เรือประมงลำดังกล่าวอยู่ในสถานะ "เรือไร้สัญชาติ" ทำให้ไม่สามารถที่จะออกไปในทะเลได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล

ด้วยเหตุผลดังกล่าว กรมประมงจึงออกคำสั่งยึดเรือและทรัพย์สินในเรือประมง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 96 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ เจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือประมงสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ