นาย จิรภัทร วีรชยทองคำ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI กล่าวว่าโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ และความชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจ E-Payment และ E-Commerce ที่บริษัทได้เริ่มดำเนินการมานั้น เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยตลาดออนไลน์ในประเทศไทยในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือมีการเติบโตกว่าปีละ 40% ทั้งยังเป็นเทรนด์ของสังคมโลกทุกวันนี้ ที่มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันสู่สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งให้ทั้งความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากกว่า โดยโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯในปี 2560 จะมาจาก 2 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย E-Payment และ E-Commerce
บริษัทฯได้รุกตลาด Payment เต็มรูปแบบ พร้อมจับมือกับพันธมิตรอย่าง Tencent บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนผู้ให้บริการ WeChat Pay ซึ่งเป็นบริการที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและลดต้นทุนให้แก่ร้านค้าพันธมิตร รวมไปถึงบริษัทฯยังสามารถจัดเก็บรายได้จากค่าใช้บริการที่มั่นคงในระยะยาว ณ ปัจจุบันได้เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วในหลายร้านค้าขนาดใหญ่รวมไปถึงโรงแรมชั้นนำ อาทิ King Power,ICC Group,Dusit Thani และอื่นๆ โดยรายได้หลักมาจากค่าธรรมเนียมบริการเฉลี่ย 1.5 - 2% ของทุกๆยอดซื้อ ซึ่งมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายแบบวันต่อวัน ผ่านการใช้จ่ายผ่านระบบ QR Code โดยปัจจุบันมีร้านค้าที้เข้าร่วมใช้บริการกว่า 3,000 ร้านค้า และตั้งเป้าให้ครบ 10,000 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้
ในปี 2560 นี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัว E-Wallet หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ ระบบแรกในประเทศไทยที่เป็นรูปแบบ Digital Point Exchange ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถนำ Point จากบัตรเครดิตต่างๆที่มีมารวมกันไว้ในที่เดียว พร้อมสามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือบริการต่างๆได้ดั่งใจ เช่น ค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่ามือถือ,ทางด่วน และอื่นๆอีกมากมาย ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในธุรกิจการให้บริการอื่นๆต่อไป
จากแผนธุรกิจของบริษัทฯที่อิงไปกับอุตสาหกรรมที่เป็นเมกะเทรนด์ในปัจจุบัน บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทฯเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาวตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทอย่างแน่นอน" นายจิรภัทรกล่าว