นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากหลายจังหวัดประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก เช่น สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ลพบุรี เพชรบูรณ์ สุโขทัย เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการประกอบกิจการ รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ธนาคารและสถาบันการเงินเป็นอย่างมาก
ในการนี้ เครดิตบูโรในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสถาบันการเงินไทยจึงได้ออกหนังสือถึงธนาคารและสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกกว่า 96 แห่ง เพื่อให้ระมัดระวังในการรายงานและนำส่งข้อมูลของลูกหนี้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยเฉพาะ หากมีการผ่อนผันหรือผ่อนปรนการชำระหนี้ให้กับลูกค้าดังกล่าว ควรยึดถือข้อเท็จจริงตามนโยบายที่ได้ช่วยเหลือหรือผ่อนผันให้กับลูกค้า เช่น กรณีที่ลูกค้าสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันได้ สมาชิกสามารถรายงานและนำส่งข้อมูลการชำระหนี้ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันนั้นในสถานะบัญชี "ปกติ" แทนการรายงานและนำส่งข้อมูลว่า "ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้" เพื่อช่วยเหลือลูกค้าไม่ให้เกิดความเสียหายในประวัติของตน
นอกจากนี้ ตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่องรหัสสถานะบัญชี ก็มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าในกรณีที่มีการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ หรือตามนโยบายของสมาชิกที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ อาจนำส่งเป็น "พักหนี้ตามนโยบายของรัฐ" มาตรการนี้จะเป็นการช่วยเยียวยาทางด้านจิตใจและการดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องหลังน้ำลดแล้วแก่ผู้ประสบอุทกภัยอีกทางหนึ่งด้วย
ในกรณีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 96 แห่งมีการติดต่อลูกหนี้ได้ในภายหลัง เนื่องจากตอนประสบภัยยังหาตัวกันไม่พบเพราะต่างก็ถูกน้ำท่วม แม้จะมีการส่งข้อมูลเข้ามาว่าผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม เมื่อมีการเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ และให้มีผลย้อนหลังไปยังเดือนที่เคยส่งข้อมูลว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินนั้นก็สามารถแจ้งแก้ไขให้บัญชีดังกล่าวกลับมาเป็นสถานะ บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ "ปกติไม่ค้างชำระ" หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้แล้วแต่กรณี เครดิตบูโรจะดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงให้เป็นไปตามที่มีการตกลงกัน
ทั้งนี้ เครดิตบูโรมีข้อแนะนำว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแจ้งความเสียหาย ปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนตามที่มีการแถลงออกมา อันจะทำให้ประวัติทางการเงินของท่านเหล่านั้นได้รับการดูแลตามความเป็นจริง นอกจากนี้ในส่วนของเครดิตบูโรก็จะมีการเฝ้าติดตามข้อมูลที่สมาชิกนำส่งทุกสิ้นเดือนว่า ไม่มีความผิดปกติหรือไม่มีการส่งข้อมูลบัญชีที่มีการแสดงสถานะว่าผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า หากพบความผิดปกติจะแจ้งสมาชิกให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำข้อมูลเข้าฐาน
นายสุรพลกล่าวด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์สู่ภาวะปกติ ลูกค้าสามารถตรวจเครดิตบูโรของตนเองเพื่อดูความถูกต้องของข้อมูลได้ ซึ่งเครดิตบูโรมีช่องทางสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถตรวจเครดิตบูโรได้ในหลายช่องทาง อาทิ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร หรือยื่นคำขอผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เอสเอ็มอีแบงก์ หรือที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือที่ทำการไปรษณีย์ไทย 291 สาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 0-2643-1250