มท.1 สั่งการ ปภ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอุทกภัยสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่

พุธ ๐๒ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๔๙
มท.1 สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจ ประเมิน พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย ให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ สำหรับจังหวัดที่ตั้งอยู่ในเส้นทางไหลของน้ำ ให้พร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เพื่อรับมือมวลน้ำที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำให้ติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ให้ประสานการเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อจังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์อุทกภัยจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยหลายจังหวัดสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ขณะที่จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยระดับน้ำเริ่มลดลง นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งกำชับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ แยกเป็น 1. จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจ ประเมิน พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ วางแผนแก้ไขปัญหาได้สอดคล้องกับสภาพความเสียหาย รวมถึงซ่อมแซม และฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยเฉพาะระบบการสื่อสาร ประปา ไฟฟ้า และเส้นทางคมนาคม เพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด 2. จังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย ให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย มุ่งดำเนินการเชิงรุกในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยทุกครัวเรือน เพื่อมิให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม พร้อมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้บริการด้านต่างๆ แก่ประชาชน ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมขัง โดยประสานสำนักงานชลประทานในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและเส้นทางการไหลของน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำจากพื้นที่น้ำท่วมขังไปยังลำน้ำสาขา ก่อนออกสู่แม่น้ำสายหลัก 3. จังหวัดที่ตั้งอยู่ในเส้นทางไหลของน้ำ ให้เตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่ โดยติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำ เตรียมพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมถึงขุดลอกคูคลอง กำจัดขยะ วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำและเร่งระบายน้ำที่ไหลมาสมทบให้ออกสู่แม่น้ำสายหลักโดยเร็วที่สุด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำให้ติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำหลากได้อย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปภ.ได้เน้นย้ำหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ ให้ประสานการเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ รวมถึงจัดทำแนวคันกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่สำคัญ และพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัด เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำหลาก ตลอดจนติดตามข้อมูลปริมาณฝน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อวางแผนการระบายน้ำได้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าหน่วยงานภาครัฐพร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ