พาณิชย์เดินหน้ายุทธศาสตร์ผลักดันไทยสู่ “ฮับ ออร์แกนิค” หารือจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน

พฤหัส ๐๓ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๕๐
กระทรวงพาณิชย์สานความร่วมมือทุกประเทศอาเซียน จัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์ อาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้ผลิตและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ พร้อมแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ของภูมิภาค

นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า " หนึ่งในนโยบายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และภาคการเกษตรไทยก็คือ การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการทำเกษตรที่มีความทันสมัย ใช้การผลิตและ การตลาดสมัยใหม่ ร่วมกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว ช่วยเหลือเกษตรกรให้แข่งขันได้ใน ตลาดโลก ผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเกษตรอินทรีย์ จึงเป็นการช่วยยกระดับรายได้ภาคเกษตร และสร้างความเข้มแข็ง สู่เกษตรกรไทยได้อย่างยั่งยืน"

"เกษตรกรมีความเข้มแข็งและผู้ประกอบการมีความสามารถในการแข่งขันจะช่วยยกระดับรายได้ของประเทศให้ สูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2551 โดยเล็ง เห็นโอกาสในตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด ในปัจจุบันมีมูลค่าการค้าปีละไม่ ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท และมีอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 20 ต่อปี"

ผลสำรวจของสถาบันวิจัยเกษตรกรรมอินทรีย์ (The Research Institute of Organic Agriculture หรือ FiBL) และ สหพันธ์ เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements หรือ IFOAM) ระบุว่าในปี 2558 ใน 179 ประเทศทั่วโลก พบว่ากลุ่มประเทศอาเซียนเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ น่าสนใจ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญของโลก โดยจากข้อมูลการสำรวจ พื้นที่เกษตรอินทรีย์ในกลุ่มอาเซียนมีประมาณ 3.18 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.98 ของพื้นที่เกษตรอินทรีย์โลก โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 พื้นที่เกษตรอินทรีย์ขยายตัวเป็น 3 เท่า และ เมื่อพิจารณาสัดส่วนพื้นที่เกษตร อินทรีย์ในกลุ่มอาเซียน พบว่าไทยมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากเป็นอันดับ 4 รองจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม โดยไทยมีสัดส่วนของพื้นที่เกษตรอินทรีย์ร้อยละ 8.9 ของพื้นที่เกษตรอินทรีย์ของอาเซียนทั้งหมด ส่วนฟิลิปปินส์มีสัดส่วนร้อยละ 46 อินโดนีเซียมีสัดส่วนร้อยละ 25.5 และเวียดนามร้อยละ 15 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในปี 2559 ไทยมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็นการส่งออกประมาณ 2,400 ล้านบาท หรือ 60% คาดว่าในปี 2560 ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์สามารถเติบโตได้ 10% สินค้าสำคัญได้แก่ ข้าว พืชผัก ผลไม้ เป็นต้น และในช่วงปี 2558 – 2563 คาดว่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ จะขยายตัวต่อเนื่องที่ประมาณร้อยละ 7

จากความสำคัญและแนวโน้มดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการผนึกกำลังเครือข่ายให้แก่ผู้ผลิตและผู้ค้าเกษตรอินทรีย์ใน อาเซียน จึงได้ให้การสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อจัดตั้ง "สหพันธ์เกษตรอินทรีย์ อาเซียน" โดยมีสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย (The Thai Organic Trade Association: TOTA) เป็นแกนนำทำงานร่วมกับสมาคมอื่นๆ เพื่อขับ เคลื่อนการทำงานของสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1) ส่งเสริมการค้าขายเกษตรอินทรีย์ระหว่างกันในเครือข่ายสมาชิก ทั้งในการสร้างช่องทางและขยายตลาดสินค้า เกษตรอินทรีย์และการหาวัตถุดิบ โดยมุ่งให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการผลิตและการขายสินค้าเกษตรอินทรีย์

2) ผลักดันความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น การปรับปรุงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อาเซียน การยอมรับระบบตรวจ รับรองเกษตรอินทรีย์ของประเทศสมาชิก การจัดงานแสดงสินค้า การประชุมระดับนานาชาติ การจัดให้มีฟอรั่ม ในการรวมตัวเจรจาในประเด็นต่างๆ กับประเทศนอกภูมิภาค

3) สร้างความรู้ความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ทั้งในส่วนของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคระหว่างประเทศสมาชิก

4) สนับสนุนและเป็นภาคีร่วมโครงการสำคัญต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการ Opportunities on Organic Farms for CLMVT (OOF) สนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และฝึกปฏิบัติจริงระหว่างเกษตรกร CLMVT/ โครงการประกวด Thailand Organic Innovation Award (TOIA) ซึ่งเป็นการประกวดการบริหาร จัดการเกษตรอินทรีย์ด้วยนวัตกรรมและจะขยายผลสู่ประกวดระดับ ASEAN ในอนาคต เป็นต้น

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า "กระทรวงพาณิชย์จึงได้ถือโอกาสใช้งาน Organic & Natural Expo 2017 ซึ่ง เป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าบริการออร์แกนิคและธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของไทยและภูมิภาคอาเซียน จัดเวที ให้สมาคมธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในอาเซียนมาร่วมกันหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้ง สหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน โดยมีฑูตพาณิชย์อาเซียนเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย เพื่อช่วยผลักดันการจัดตั้ง สหพันธ์ฯ และประชาสัมพันธ์ให้สมาคมเกษตรอินทรีย์ในแต่ละประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิก"

"การจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียนจะเป็นการเปิดเวทีในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้าน การผลิต มาตรฐานสินค้า และการตลาดเกษตรอินทรีย์ ระหว่างผู้ผลิตและผู้ประกอบการของแต่ละประเทศในกลุ่ม อาเซียนในการร่วมกันพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีมาตรฐานที่เทียบเท่าและใกล้เคียง กับระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เกษตรอินทรีย์ในอาเซียน ตลอดจนเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้มีโอกาสเห็นศักยภาพของไทยใน การที่จะเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคนี้"

"ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์ทั้งในด้านความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ในตลาด โลก ทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายนี้ ต่อยอดความรู้ทั้งในด้านการผลิต มาตรฐานและการตลาด เพื่อนำ กลับมาพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยไปสู่เป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ไทยและอาเซียนเป็นฐานการผลิตหรือ HUB ด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคต่อไป" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO