โรงเรียนดาราวิทยาลัย เปิดตัว 'ป๊อปอาร์ต สตูดิโอ’ เตรียมความพร้อมด้านไอทีให้เด็กรุ่นใหม่ ตอบรับยุคสมัยไทยแลนด์ 4.0

พฤหัส ๐๓ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๔๐
ในขณะที่ทุกภาคส่วนกำลังตื่นตัวกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 อันเป็นวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ภาคการศึกษาเองก็ต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อตอบรับกับนโยบายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน รวมถึงอุปกรณ์การศึกษาให้ทันยุคสมัย ซึ่งเป็นสิ่งเร่งด่วนและสำคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาให้กับเยาวชนไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน

ในประเด็นนี้ ดร.ชวนพิศ เลี้ยงประไพพันธ์ ผู้จัดการ-ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรและสร้างห้องเรียน Pop Arts Studio (ป๊อปอาร์ตสตูดิโอ)ของโรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า "ในปัจจุบันแทบปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทักษะการใช้เทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างมากสำหรับโอกาสในการทำงานและการดำเนินชีวิต โรงเรียนดาราวิทยาลัย เล็งเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้ จึงได้ร่วมกับ บริษัทEOS จำกัด (Education Outsource Service) ผู้ให้บริการออกแบบและจัดการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยี ริเริ่มห้องเรียนแห่งอนาคต Pop Arts Studio(ป๊อปอาร์ตสตูดิโอ) หรือ PAS เป็นที่ซึ่งเด็กๆสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทางโรงเรียนมุ่งพัฒนาทักษะและประสบการณ์การเรียนรู้ในด้านเทคโนโลยีอย่างเป็นลำดับขั้น มีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ต่อยอดในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เราจึงมุ่งเน้นให้นักเรียนมีทักษะ มีความพร้อม เป็นผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเป็นผู้นำทางความคิด กล้าคิด กล้าแตกต่าง กล้านำเสนอ และมีความรับผิดชอบ อันจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคมต่อไปในอนาคต ห้องเรียน PAS แบ่งหลักสูตรการเรียนรู้ออกเป็น 2 ระดับ คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีที่สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานได้ตามจินตนาการและความต้องการของนักเรียนอย่างเหมาะสม ด้วยอุปกรณ์ Macbook Air และ iPad ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จะใช้อุปกรณ์ iMac และ Digital Camera ในการฝึกฝนเรียนรู้และเพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยีในขั้นที่สูงขึ้น"

เด็กชายบัสซัม อัลฉับบาน หรือน้องบัสซัม อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กล่าวว่า "ในห้องเรียน PAS จะมีเครื่องมือที่ทันสมัยหลากหลายอย่าง ปกติแล้วที่บ้านผมจะใช้คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ แต่ที่โรงเรียนจะเพิ่มแมคโอเอส หรือระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอชเข้ามาด้วย ทำให้เราสามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ รู้ถึงข้อดีข้อเสียรวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ผมอยากจะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะในอนาคตผมอยากจะเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ครับ"

เด็กหญิงกานต์ศุภางค์ แก้วแดง หรือน้องพีซ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า "โครงการนี้ช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ของหนู โดยคุณครูจะคอยปลูกฝังให้นักเรียนกล้าคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ซึ่งหนูสามารถใช้โปรแกรม iMovie ตัดต่อคลิปวีดีโอแบบง่ายๆได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการออกแบบการ์ดอวยพร ทำเข็มกลัดและกระเป๋าผ้าเพื่อเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษได้อีกด้วยค่ะ"

เด็กชายวชิรศักดิ์ นิ่มไพฑูรย์ หรือน้องดีด๊อยซ์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กล่าวว่า "เมื่อเริ่มเข้าสู่ระดับชั้นมัธยม หลายคนคงเริ่มค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือพยายามฝึกฝนความถนัดด้านต่างๆที่จะเป็นประโยชน์กับอาชีพการงานในอนาคต ผมเองนั้นอยากจะเป็นแคสเตอร์ หรือนักพากย์เกม ซึ่งผมสามารถนำความรู้ในชั้นเรียนอย่างการตัดต่อวีดีโอ ถ่ายทำรายการ วางสตอรี่บอร์ด มาประยุกต์ใช้ได้ โดยหวังว่าความชื่นชอบนี้จะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพต่อไปได้ ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีนั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมมองว่าเด็กหลายคนอยากเรียนรู้แต่ขาดโอกาสอยู่ โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด กว่าที่จะค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบก็อาจจะสายไป เนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอที่จะแข่งขันกับคนอื่นๆได้ จึงอยากให้ผู้ใหญ่และภาครัฐเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนอย่างทั่วถึงครับ"

เด็กหญิงศุภิสรา ใจบาล หรือน้องขิม อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กล่าวว่า "ในชั้นเรียนจะมีหลากหลายหลักสูตรให้เรียนรู้ อาทิ การทำภาพยนตร์แอนิเมชั่นโดยใช้เทคนิคสต็อปโมชั่น หรือโปรเจกต์ยัง รีพอร์ตเตอร์ ที่หนูชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะส่วนตัวใฝ่ฝันที่จะทำอาชีพผู้ประกาศข่าวในอนาคต นักเรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การเขียนสคริปต์ข่าว ถ่ายทำด้วยกล้องดิจิตอล ตัดต่อวีดีโอ ใส่กราฟฟิก นอกจากนี้คุณครูยังเปิดรับฟังไอเดียใหม่ๆเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับงานในเชิงสร้างสรรค์อีกด้วย หนูคิดว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างนิสัยช่างคิด ช่างวิเคราะห์ และสามารถนำไปต่อยอดกับงานใดๆก็ได้ค่ะ"

โอกาสเป็นสิ่งสำคัญ แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการ เด็กทุกคนไม่สามารถมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อใช้ประกอบการเรียนรู้เองที่บ้านได้ แต่ภาครัฐและสถาบันการศึกษาสามารถจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เด็กๆได้ ถ้าหากมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับเด็กและเป็นการลงทุนที่ไม่สูญเปล่า เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อเราสามารถสร้างประชากรที่มีความรู้ความสามารถ ผลประโยชน์ทั้งหลายก็จะย้อนกลับมาที่ประเทศชาติและประชาชนทุกคนนั่นเอง

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับห้องเรียน Pop Arts Studio ได้ที่https://www.facebook.com/PopArtsDara/

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก