นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงตัวอย่างเกษตรกรที่ทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งเป็นเกษตรทางเลือกที่จะสร้างรายได้และลดความเสี่ยงทั้งด้านการผลิต การตลาดและราคา โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 จังหวัดอุดรธานี (สศท.3) ได้ลงพื้นที่ในเขตพื้นที่อำเภอน้ำโสมและอำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี นับเป็นพื้นที่ลุ่มและมีพื้นที่สูงบ้างสลับกัน สามารถทำประมง เลี้ยงสัตว์ ทำนาปลูกข้าว ทำสวนผัก ปลูกพืชไร่ ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ได้หลากหลายชนิด และมีเกษตรกรหลายรายที่ประสบผลสำเร็จจากการปลูกไม้ผล และการทำเกษตรผสมผสาน
จากการได้สัมภาษณ์เกษตรกรตัวอย่าง "นายทีฆโชติ ผิวสว่าง" เกษตรกร หมู่ 11 บ้านกุดนาคำ ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี พบว่า แต่เดิมเคยนำมะนาว และขนุน ในพื้นที่ 38 ไร่ แต่ยังประสบปัญหาขาดทุน จึงมีแนวคิดที่จะหาพืชอื่นที่มีศักยภาพมาปลูกทดแทน ซึ่งได้เห็นต้นแบบจากพี่ชายที่ประสบผลสำเร็จจากการปลูกเงาะ มีรายได้ดี จึงได้นำต้นเงาะมาปลูกบ้าง ซึ่งแม้ได้ผลผลิตดี แต่ยังเจอปัญหาเรื่องวัชพืช โรคและแมลงรบกวน จึงได้เริ่มคิดทำเกษตรผสมผสานในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน ได้จัดแบ่งพื้นที่ 38 ไร่ ทำการเกษตรแบบผสมผสานโดยไม่ใช้สารเคมี โดยมีนาข้าว 3 ไร่ (ไว้บริโภค) สวนเงาะ 12 ไร่ (ให้ผลผลิต 3 ตัน ขายส่งราคา 28-30 บาท/กก. รายได้ปีละประมาณ 100,000 บาท) แก้วมังกร 1 ไร่ 2 งาน (รายได้ปีละ 70,000 บาท) ปาล์มน้ำมัน 2 ไร่ (รายได้ปีละ 15,000 บาท) บ่อเลี้ยงปลา/เลี้ยงกบ 4 ไร่ (ขายกบและขายปลาได้ประมาณ 96,000 บาท) ฝรั่งกิมจู 3.5 ไร่ (เริ่มให้ผลเก็บขายบ้างเป็นบางครั้ง) รวมรายได้ตลอดทั้งปีมากกว่า 300,000 บาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)
นอกจากนี้ ยังมีมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เริ่มปลูกประมาณ 12 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยและที่เพาะชำกล้าไม้ 1 ไร่ ขณะเดียวกันก็มีรายได้เสริมจากทาบกิ่ง/ต่อกิ่งพันธุ์เงาะขายอีกทางหนึ่ง ทำให้ปัจจุบันสามารถมีรายได้และเลี้ยงครอบครัว มีความพออยู่พอกินเหลือเก็บออม
สำหรับสวนของนายทีฆโชติ ผิวสว่าง ตั้งอยู่ที่ หมู่ 11 บ้านกุดนาคำ ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ 088 512 2843 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพื่อมาศึกษาเรียนรู้และนำไปปรับใช้เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพการเกษตรต่อไป